เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.07 น. ของคืนวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ญี่ปุ่นได้เผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวแมกนิจูด 7.1 ในพื้นที่แถบจังหวัดฟุกุชิมะและมิยางิ โดยจากการรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ NHK ระบุว่า มีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างน้อยราว 48 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ฟาก CNN ระบุว่า จุดศูนย์กลางของเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ในระยะทาง 74 กิโลเมตร ทางโซนตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองนามิเอะ เมืองชายฝั่งที่อยู่ห่างจากจากฟุกุชิมะออกไปราว 97 กิโลเมตร โดยกรมสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Geological Survey) พบว่าเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นวัดความลึกจากผืนดินได้ที่ประมาณ 58 กิโลเมตร แต่ไม่มีสัญญาณการแจ้งเตือนของสึนามิแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ในอีกชั่วโมงถัดมา มีรายงานว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวในรอบแรก ได้เจออาฟเตอร์ช็อกซ้ำอีกระลอก
ท้ังนี้ รัฐบาลจังหวัดฟุกุชิมะได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์อพยพกว่า 64 จุดในฟุกุชิมะ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นทีที่ได้รับผลกระทบกว่า 200 คน
ด้านสำนักข่าว Kyodo News ได้รายงานในช่วงเช้าวันนี้ (14 กุมภาพันธ์) ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีประชาชนได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 100 ราย ในพื้นที่ ฟุกุชิมะ มิยางิ และอีกหลายจังหวัด และส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกว่า 950,000 ครัวเรือน ไม่สามารถใช้กระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ (ไฟฟ้าเริ่มกลับมาในหลายจุดแล้ว)
โยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังได้ออกมาให้ความมั่นใจกับสาธารณชน ในช่วงเช้าวันนี้ โดยระบุว่าเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ไม่มีการตรวจพบความผิดปกติใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรงงานนิวเคลียร์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว รวมถึงยังอยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหายที่แน่ชัดอีกครั้ง ทั้งยังขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่แต่ในบ้าน เพื่อเตรียมรับมือกับอาฟเตอร์ช็อก
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: