วันนี้ (16 สิงหาคม) จังหวัดฟุคุอิของญี่ปุ่นได้เตือนให้นักท่องเที่ยวที่มาว่ายน้ำในบริเวณชายหาดให้อยู่ห่างจากโลมา หลังพบรายงานว่ามีโลมาตัวหนึ่งเข้าทำร้ายประชาชนอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักสุดต้องเย็บถึง 14 เข็ม หลังถูกโลมากัดเข้าที่มือ
ผู้เชี่ยวชาญที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในฟุคุอิกล่าวว่า จากคำบอกเล่าของผู้ที่ถูกโลมาทำร้าย ทำให้เชื่อได้ว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของโลมาเพียงตัวเดียว ซึ่งถูกพบครั้งแรกในพื้นที่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า โลมาที่ทำร้ายมนุษย์เป็นโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิกที่โตเต็มวัยแล้ว โดยนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม โลมาตัวนี้ได้ไล่กัดนักท่องเที่ยวหลายคนในชายหาด 3 แห่งที่จังหวัดฟุคุอิ ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุนั้นนักท่องเที่ยวมักจะอยู่ห่างจากชายฝั่งในรัศมี 10 เมตร ซึ่งเป็นสัญญาณว่าโลมาในพื้นที่คุ้นเคยกับการเผชิญหน้ามนุษย์ในน้ำตื้น
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ใต้น้ำที่ปล่อยคลื่นอัลตราโซนิกเพื่อพยายามยับยั้งไม่ให้โลมาเข้ามาใกล้มนุษย์มากเกินไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะหลังติดตั้งก็ยังเกิดเหตุโลมาทำร้ายมนุษย์ถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลาดตระเวนชายหาด และประกาศเตือนให้ผู้คนอยู่ห่างจากโลมาในทะเล
แม้เหตุการณ์ที่โลมาทำร้ายมนุษย์นั้นหาได้ยากมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้หากโลมารู้สึกว่าตัวเองกำลังเจอกับภัยคุกคาม โดย มาซากิ ยาซูอิ เจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า โลมาไม่ชอบให้สัมผัสกับปลายจมูกและครีบหลังของพวกมัน พร้อมวอนขอให้ประชาชนรับชมโลมาอยู่ห่างๆ เท่านั้น เนื่องจากคลิปวิดีโอที่แพร่อยู่บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวพยายามที่จะสัมผัสกับโลมาในทะเล ซึ่งจะทำให้สัตว์เกิดความเครียดและจู่โจมมนุษย์ได้
ภาพ: Alexis Rosenfeld / Getty Images
อ้างอิง: