ญี่ปุ่นอนุมัติชุดมาตรการมูลค่า 17 ล้านล้านเยน (หรือราว 4 ล้านล้านบาท) หวังช่วยประชาชนรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ และหวังว่าจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นออกจากภาวะเงินฝืดได้อย่างยั่งยืน ท่ามกลางคะแนนนิยมของรัฐบาลที่แตะระดับต่ำที่สุดตั้งแต่รับตำแหน่งในปี 2021
โดยชุดมาตรการนี้รวมไปถึงการลดภาษีเงินได้และภาษีที่อยู่อาศัย ที่จะมีมูลค่ามากกว่า 3 ล้านล้านเยน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เร็วสุดในเดือนมิถุนายน 2024 นอกจากนี้ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวยังรวมถึงการขยายเวลาอุดหนุนราคาน้ำมันเบนซิน ไฟฟ้า และก๊าซ จนถึงสิ้นเดือนเมษายนปีหน้า
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ว่า มาตรการชุดนี้เกิดขึ้นหลังจากการเพิ่มค่าจ้างชาวญี่ปุ่นไม่เท่ากับการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในประเทศ พร้อมทั้งระบุว่า “เราหวังว่าจะกระตุ้นการบริโภคโดยการเพิ่มรายได้หลังหักภาษี (Disposable Income) ของผู้คน และสร้างวงจรที่ดีในระบบเศรษฐกิจ”
คิชิดะกล่าวอีกว่า “มีสัญญาณเชิงบวกของการฟื้นตัวจากภาวะเงินฝืดที่ญี่ปุ่นเผชิญมายาวนาน และเราหวังว่ามาตรการเหล่านี้จะทำให้แนวโน้มดังกล่าวดำเนินต่อไป”
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนกันยายนจากปีก่อนหน้า ชะลอตัวจากการเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนสิงหาคม แต่ราคาอาหารไม่รวมของสดกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 8.8%
มาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่นี้ยังออกมาเมื่อคิชิดะยังคงเผชิญกับการลดลงของคะแนนนิยมในคณะรัฐมนตรีอีก 9% จากเดือนกันยายน เหลืออยู่ที่ 33% จากการสำรวจของ Nikkei และ TV Tokyo ที่จัดทำระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม ซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่รับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2021
โดยผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 65% กล่าวว่า การลดภาษีไม่ใช่การรับมือต่อภาวะเงิน ในขณะที่ 24% เห็นด้วย
สส. ฝ่ายค้านบางคนได้วิพากษ์วิจารณ์มาตรการทางเศรษฐกิจที่ล่าช้าและผิวเผินของฝ่ายรัฐบาล โดย จุน อาซึมิ จากพรรค Constitutional Democratic Party of Japan กล่าวว่า “ผู้คนสามารถเข้าใจได้ว่า มาตรการเหล่านี้จำเป็นต่อการอยู่รอดของรัฐบาลหรือเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า”
ขณะที่ โนบุยุกิ บาบะ ผู้นำพรรค Nippon Ishin (Japan Innovation Party) กล่าวกับ Nikkei Asia ว่า “ไม่มีทางที่มาตรการทางเศรษฐกิจที่ซ้ำซากจำเจเหล่านี้จะได้รับการยอมรับจากสาธารณชน”
นักวิจารณ์บางคนกล่าวว่า แพ็กเกจใหม่นี้ ‘เข้าใจยาก’ เนื่องจากคิชิดะลดภาษีในด้านหนึ่ง ขณะที่วางแผนที่จะเพิ่มภาษีอีกด้านหนึ่ง เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนด้านการป้องกันประเทศที่เพิ่มขึ้น
โดยคิชิดะได้ออกมาปกป้องมาตรการของตัวเอง โดยระบุว่า “การเสริมศักยภาพด้านกลาโหมเป็นอีกประเด็นสำคัญสำหรับญี่ปุ่นที่ไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ และมาตรการขึ้นภาษีเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านกลาโหม และการลดภาษีด้านอื่นๆ นี้มีความสอดคล้องกัน”
ทั้งนี้ มาตรการทางเศรษฐกิจชุดนี้ยังรวมถึงแผนการจัดตั้งกองทุน 10 ปี มูลค่า 1 ล้านล้านเยน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ
รัฐบาลจะเตรียมร่างงบประมาณเสริมประมาณ 13.1 ล้านล้านเยนเพื่อเสนอในการประชุมสภา เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจนี้
อ้างอิง:
