×

นักวิเคราะห์ฟันธงปี 2564 ‘January Effect’ อาจไม่มาตามนัด

04.01.2021
  • LOADING...
นักวิเคราะห์ฟันธงปี 2564 ‘January Effect’ อาจไม่มาตามนัด

ช่วงเดือนมกราคมของทุกปี แวดวงการลงทุนมักจะนึกถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘January Effect’ หรือความเชื่อของนักลงทุนที่ว่าตลาดหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นร้อนแรงในช่วงเดือนมกราคม

 

โดยสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการเข้าซื้อของนักลงทุนหลังจากผ่านช่วงหยุดยาวปลายปี หรือการเข้าซื้อจากความคาดหวังต่อแนวโน้มการเติบโตในแต่ละปี แต่สำหรับปีนี้ ปรากฏการณ์ January Effect อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่นักลงทุนคาดหวังเอาไว้

 

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส มองว่า โดยปกติแล้วช่วงต้นปีตลาดมักจะคาดหมายว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนและตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ จะอยู่ในทิศทางเชิงบวกมาก ก่อนจะค่อยๆ มองแย่ลง แต่สำหรับปีนี้เปิดมาพร้อมกับเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ และยังคาดเดาได้ยากว่าความเสี่ยงจะมากเพียงใด ทำให้ภาพของการเก็งกำไรอาจจะหายไป

 

“ก่อนหน้านี้ตลาดคาดการณ์ว่า GDP ของไทยปีนี้อาจจะโตได้ 3-4% แต่ปัจจุบันอาจจะไม่มั่นใจแล้วว่าจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะยังไม่รู้ว่าโควิด-19 จะจบเมื่อใด และจะส่งผลกระทบต่อไปอย่างไรบ้าง ทำให้ Januarty Effect ในปีนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น”

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนปัจจุบัน แนะนำนักลงทุนเข้าหุ้นปลอดภัย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

 

  1. หุ้นปันผลสูง แนะนำ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP และ บมจ. ไดนาสตี้เซรามิค หรือ DCC ซึ่งเป็นหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลเกิน 6% ต่อปี 

 

  1. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้า ได้แก่ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF และ บมจ. ปตท. หรือ PTT 

 

  1. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แก่ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC และ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT

 

นักวิเคราะห์ฟันธงปี 2564 ‘January Effect’ อาจไม่มาตามนัด

 

ด้าน ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า จากสถิติ 10 ปีที่ผ่านมา (2554-2563) พบว่าตลาดหุ้นไทย (SET) ในช่วงเดือนมกราคมจะให้ผลตอบแทนรวม (Total Return) เป็นบวกทั้งหมด 7 ปี ทั้งนี้กลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดคือกลุ่มหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET HD หรือกลุ่มหุ้นปันผลสูง

 

“นับแต่จัดตั้งดัชนี SET HD เมื่อปี 2554 ถือเป็นดัชนีที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดอิงจากค่ากลาง (Median) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าใกล้เข้าสู่ช่วงการจ่ายเงินปันผลของปีก่อน ขณะเดียวกันความเสี่ยงของหุ้นกลุ่มนี้ยังถูกจำกัดไว้ด้วยระดับเงินปันผล นอกจากนี้ จากสถิติที่ผ่านมาอาจจะไม่ใช่แค่ ‘January Effect’ แต่ดัชนี SET มักจะให้ผลตอบแทนดีในช่วง 4 เดือนแรกของปี อย่างเดือนกุมภาพันธ์ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 8 ปี จาก 10 ปีย้อนหลัง ขณะที่เดือนเมษายนให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกปีสำหรับ 10 ปีที่ผ่านมา”

 

โดยภาพรวมดัชนีตลาดมักจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงต้นปี เพราะการคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดยังอยู่ในระดับสูง อย่างในปีนี้ Consensus ยังมองว่า EPS ของ SET จะเติบโตราว 50% แต่อาจจะเป็นมุมมองเชิงบวกมากเกินไป และอาจจะยังไม่ได้รวมความเสี่ยงจากโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้มีโอกาสที่นักวิเคราะห์อาจจะปรับลดประมาณการลงมาได้

 

สำหรับแนวต้านของ SET ปัจจุบันมองที่ระดับ 1,500 จุด ส่วนแนวรับแรก 1,400 จุด และถัดไปที่ระดับ 1,360 จุด ซึ่งน่าจะใช้แนวรับและแนวต้านระดับนี้ต่อไปสักระยะหนึ่ง ตราบใดที่ประมาณการ EPS ยังคงทรงตัวได้ แต่หากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศลากยาว และไม่มีมาตรการเยียวยาออกมาอย่างเร่งด่วน ตามมาด้วยการปรับลดประมาณการ EPS จึงอาจจะปรับระดับคาดการณ์แนวรับแนวต้านอีกครั้ง

 

ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising