‘จางกียง’ บทพิสูจน์บนเส้นทางการแสดงอีกครั้งใน My Roommate is a Gumiho

จางกียง นักแสดงที่กำลังเป็นที่จับตามองอย่างมากในปีนี้ จากสองผลงานที่ปล่อยออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน นั่นคือซีรีส์ My Roommate is a Gumiho, ภาพยนตร์ Sweet & Sour และเร็วๆ นี้กับซีรีส์ Now, We Are Breaking Up ที่มีกำหนดออกอากาศในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะเป็นการแสดงนำร่วมกับ ซงฮเยคโย นักแสดงระดับท็อปของเกาหลี!

สำหรับ My Roommate is a Gumiho ถือเป็นซีรีส์ที่ทำให้จางกียงได้รับความสนใจอย่างมาก นอกจากตัวเลขเรตติ้งที่เป็นที่น่าพอใจแล้ว หลายๆ คนยังชื่นชมในพัฒนาการด้านการแสดงที่เขาสามารถถ่ายทอดบทบาทปีศาจจิ้งจอกอายุ 999 ปีได้อย่างดี แม้จะเป็นงานซีรีส์แนวแฟนตาซีเรื่องแรกก็ตาม

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับบทบาทในซีรีส์แนวแฟนตาซี ที่ผ่านมาผมไม่เคยถ่ายทำอะไรที่มี CG เยอะขนาดนี้มาก่อน แม้มันจะยาก แต่ผมก็ยังรู้สึกสนุกที่ได้ลงมือไปพร้อมกับการที่ต้องจินตนาการไปด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นตรงหน้า

“มันไม่ง่ายเลยในการที่ผมจะเข้าถึงอารมณ์และสถานการณ์ของชินอูยอในช่วงแรกๆ แต่ยิ่งมันยากขึ้นเท่าไร ผมก็ยิ่งอยากท้าทายตัวเองมากขึ้นเท่านั้น นั่นทำให้ผมพยายามพูดคุยกับผู้กำกับบ่อยมากในช่วงก่อนการถ่ายทำ จนค่อยๆ เข้าใจความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น”

ซีรีส์ My Roommate is a Gumiho

ภาพ: juanxkui / Instagram

จางกียง เริ่มต้นงานในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ โดยเดบิวต์เมื่อปี 2012 บนเวที Seoul Fashion Week และมีผลงานอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาทั้งบนรันเวย์ ปกนิตยสาร แคมเปญโฆษณาต่างๆ รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอของศิลปินดังอย่าง ควอนจินอา, Brown Eyed Soul และ IU

ด้านการแสดง จางกียงได้ชิมลางบทรับเชิญครั้งแรกเมื่อปี 2014 ในซีรีส์เกาหลีเรื่องดัง It’s Okay, That’s Love ที่นำแสดงโดย โจอินซอง และกงฮโยจิน ตามมาด้วย The Idle Mermaid, The Greatest Marriage Schoolgirl Detectives, This Is My Love, Beautiful Mind, The Liar and His Lover, Go Back Couple และ My Mister ซึ่งเรื่องหลังนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก APAN Star Awards ประจำปี 2018 ด้วย

ซึ่งจางกียงได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่เขาเลือกเป็นนักแสดงไว้ว่า “ผมเข้ามาทำงานแสดงด้วยความบังเอิญครับ ผมเป็นนายแบบอยู่ พอได้รับโอกาสแสดงในมิวสิกวิดีโอและเว็บดราม่า มันน่าสนใจและก็น่าสนุกดีที่ได้เจอเสน่ห์ใหม่ๆ ของตัวเอง ได้แสดงออกต่อหน้ากล้อง ผมถึงยังคงรักในงานแสดง และทำมันต่อมาเรื่อยๆ ครับ”

และถ้ารู้จักเขาดี จะรู้ว่าจางกียงเป็นคนที่ขี้อายมากก่อนหน้านี้ การแสดงช่วยเปลี่ยนให้เขามั่นใจมากยิ่งขึ้น “ผมได้เรียนรู้จากคนดีๆ ที่ได้เจอในการทำงาน รวมถึงทีมละครด้วย ผมได้เรียนรู้อย่างมาก แต่ผมก็ยังขี้อายอยู่นะครับ ยังรู้สึกประหม่าอยู่ตลอด ผมแค่แสดงออกสิ่งเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นและชัดเจนขึ้นครับ”

ซีรีส์ It’s Okay, That’s Love

ซีรีส์ My Mister

หลังจากได้รับบทอันธพาลในเรื่อง My Mister นี่คือก้าวกระโดดที่ทำให้จางกียงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น จนได้รับโอกาสการเป็นนักแสดงนำครั้งแรกในซีรีส์ Come and Hug Me รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพ่อเป็นฆาตกรโรคจิต ซึ่งจางกียงเคยให้สัมภาษณ์ว่าการแสดงในเรื่องนี้ไม่ใช่งานง่ายเลย แต่มันก็ทำให้เขาก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มากมายระหว่างการถ่ายทำ

ในที่สุดความพยายามทุ่มเทแรงกายแรงใจในการรับบทนำครั้งแรกก็ไม่สูญเปล่า เพราะจางกียงสามารถคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ชายยอดเยี่ยมจากเวทีระดับประเทศ Baeksang Arts Awards 2019 จากการรับบทนำในซีรีส์ Come and Hug Me มาได้สำเร็จ และปูทางมาสู่งานแสดงชิ้นต่อๆ มา ไม่ว่าจะเป็น Kill It, Search: WWW, Born Again, My Roommate is a Gumiho และภาพยนตร์ Sweet & Sour

“ซีรีส์ My Roommate is a Gumiho เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซีที่ผมฝันอยากเล่นมานานแล้ว มันเป็นละครแนวที่นักแสดงชายทุกคนอยากลอง เพราะตัวละครมันไม่มีอยู่ในชีวิตจริง และเราก็ต้องใช้จินตนาการขึ้นมาเอง ผมให้ความสนใจกับตัวบทมากขึ้นครับ ผมอ่านบทเยอะและพูดคุยกับผู้กำกับหลายหน ผมไม่ได้เพิ่มรายละเอียดอะไรเท่าไร แต่พยายามยึดตามที่นักเขียนเขียนถึงชินอูยอให้มากที่สุด

“ผมไม่รู้ว่าจะเป็นที่ชื่นชอบขนาดนี้ครับ ที่ผมเริ่มงานแสดงเพราะอยากถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา และมั่นใจว่าจะได้โชว์ด้านที่หลากหลายของตัวเอง ผมยังมีอะไรจะแสดงและมีศักยภาพอีกเยอะ ก็เลยรู้สึกขอบคุณกับโอกาสทั้งหมดที่เข้ามาครับ”

ซีรีส์ Come and Hug Me

ภาพยนตร์ Sweet & Sour

สำหรับผลงานล่าสุดที่แฟนซีรีส์ต่างรอคอยคือการโคจรมาพบกันของจางกียงและนักแสดงหญิงแถวหน้าผู้เป็นที่รักของชาวเกาหลีอย่าง ซงฮเยคโย ในซีรีส์ Now, We Are Breaking Up ซึ่งคาดว่าจะได้รับชมกันภายในปีนี้ ซีรีส์จะเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวความรักที่ทั้งหวานและขมขื่นของคนในวงการแฟชั่น โดยจางกียงจะรับบทเป็นช่างภาพแฟชั่นอิสระ และซงฮเยคโยจะมารับบทเป็นหัวหน้าทีมแฟชั่น

“แม้จะดูเหมือนเป็นคนใจเย็นและสบายๆ เวลาทำงาน แต่ในใจของผมนั้นเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ แม้คนอื่นจะคอยพูดว่าผมทำได้ดีแล้ว แต่ผมก็มักจะคิดว่ามันยังไม่ดีพอ ผมยังสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้อีก

“ผมรู้สึกขอบคุณและมีความสุขมากจริงๆ ตอนที่คนรอบข้างมาบอกว่าซีรีส์ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งคำชื่นชมเหล่านี้มันทำให้ผมอยากจะแสดงผลงานที่ดีขึ้นอีกในอนาคต”

แม้ว่าตอนนี้จางกียงอาจจะยังเป็นเพียงนักแสดงดาวรุ่งสำหรับคอซีรีส์ ด้วยความที่เขาเพิ่งก้าวขึ้นมารับบทนำจนเป็นที่รู้จักในวงกล้างได้เพียงไม่กี่เรื่อง แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดและทักษะการแสดงที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น ทำให้เชื่อว่าหลังจากนี้จางกียงจะค่อยๆ สั่งสมชื่อเสียงและพัฒนาฝีมือจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงแถวหน้าได้ในไม่ช้า

อ้างอิง: