วันนี้ (29 มีนาคม) จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดเชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นเกินค่ามาตรฐานในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งพื้นที่ในจังหวัดเชียงรายซึ่งมีค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีผู้ป่วยมารักษา ประมาณ 3,500 คน เฉพาะที่อำเภอแม่สาย มีประมาณ 370 คน ส่วนใหญ่มีอาการแสบจมูกและเจ็บคอ นอกไปจากนี้เมืองใหญ่อย่างจังหวัดเชียงใหม่ก็มีค่าฝุ่นดังกล่าวอยู่ 237 US AQI และเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกครั้งหนึ่ง
จักรพลกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่ชุมชน ณ ดอยปุย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสูงถึง 336 US AQI สร้างผลกระทบเชิงลบทั้งสุขภาพของพี่น้องประชาชนบนดอย ทั้งระบบผิวหนัง ระบบหายใจ ระบบหมุนเวียนโลหิต รวมไปถึงเศรษฐกิจที่ต้องซบเซาและเสียหายจากพิษฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะเครื่องยนต์การท่องเที่ยวที่สำคัญของคนเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ
พรรคเพื่อไทยมีมาตรการทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวเบื้องต้นที่เคยเสนอไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
- ระยะสั้น (แก้ไขทันที) หน่วยงานรัฐต้องแจ้งเตือนค่าฝุ่นล่วงหน้าให้ประชาชน กรณีฝุ่นสูงจะมีการอพยพกลุ่มเสี่ยงให้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงสั่งหยุดโรงเรียนเพื่อลดความเสี่ยง นอกจากนี้จะบูรณาการกับหน่วยงานที่มีกำลังคนและอุปกรณ์ เช่น กองทัพและมหาดไทยให้ไปช่วยดับไฟป่าได้ทันท่วงที
- ระยะกลาง เพื่อไทยจะประสานกับกรมชลประทานให้ปล่อยน้ำเข้านาหลังฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อเปลี่ยนตอข้าวให้เป็นปุ๋ย สำหรับอ้อยจะประสานโรงงานน้ำตาลให้ลงทุนตัดอ้อยไถกลบแทนการเผา ควบคู่กันไปจะมีการปลูกต้นไม้เพื่อดักจับฝุ่น และจูงใจให้คนหันมาใช้รถพลังงานสะอาดด้วยมาตรการทางภาษี
- ระยะยาว ต้องมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาดฯ ให้ท้องถิ่นมีบทบาทในการจัดการปัญหาฝุ่น บังคับใช้กฎหมายกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เจรจากับเพื่อนบ้านเพื่อร่วมกันยุติปัญหาฝุ่นทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน รวมถึงพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือเกษตร ไม่เผา เพื่อจัดการฝุ่นให้ถึงต้นตอ
“ผลกระทบจากความเพิกเฉยของรัฐบาลที่มีอำนาจยาวนานถึง 8 ปี กำลังส่งผลอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและเป็นพิษต่อเศรษฐกิจมากขึ้น แทนที่จะใช้อำนาจรัฐในการบริหารประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพแต่กลับเพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าว พรรคเพื่อไทยของเราถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้านแต่ก็ได้ประกาศสงครามกับฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจัง มีการเคลื่อนไหวในสภาไม่ว่าจะเป็นการเสนอ พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ที่ถูกดองและไร้สภาพไปตามอายุของสภา การเสนอการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันพิษ PM2.5 หรือการเคลื่อนไหวนอกสภาด้วยการเสนอแนวทางจัดการและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะผลักดันการจัดการเรื่องนี้ทันทีและไม่รอปัญหาเข้ามาใหม่ รวมถึงจะบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย” จักรพลกล่าวในที่สุด
