รายงานของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมระบุว่า สภาพอากาศในฤดูหนาวที่แห้งแล้งมาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอิตาลีอาจต้องเผชิญกับภัยแล้งอีกครั้งในปีนี้ หลังเมื่อปี 2022 อิตาลีเคยเจอกับภัยแล้งรุนแรงสุดในรอบ 70 ปี จนถึงขั้นที่ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
เมืองเวนิสซึ่งโดยปกติแล้วเผชิญกับน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ กลับกำลังเผชิญกับระดับน้ำที่ลดต่ำลงอย่างผิดปกติ ส่งผลให้เหล่าเรือกอนโดลา เรือแท็กซี่ และเรือพยาบาล ไม่สามารถแล่นไปตามคลองบางสายได้ โดยปัญหาระดับน้ำในเวนิสลดลงนี้มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ฝนทิ้งช่วง ระบบความกดอากาศสูง พระจันทร์เต็มดวง และกระแสน้ำในทะเล
นอกจากนี้ แม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่งในอิตาลีต่างกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนักเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของประเทศ เช่น แม่น้ำโป ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในอิตาลี ขณะนี้มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปกติถึง 61%
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 รัฐบาลอิตาลีได้ประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับพื้นที่บริเวณรอบแม่น้ำโป ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของบริเวณที่มีผลผลิตทางการเกษตรของประเทศ และยังเป็นบริเวณที่ประสบภัยแล้งสาหัสมากที่สุดในรอบ 70 ปี มากไปกว่านั้นระดับน้ำในทะเลสาบการ์ดาทางตอนเหนือของอิตาลียังลดต่ำลงมากเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางไปยังเกาะซาน เบียจิโอ ได้ผ่านทางเดินที่เกิดจากการลดตัวลงของระดับน้ำ
ปรากฏการณ์แอนติไซโคลน (Anticyclone) ได้ครอบงำสภาพอากาศในยุโรปตะวันตกเป็นเวลา 15 วัน ทำให้อุณหภูมิอ่อนกว่าปกติในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ แต่อย่างไรก็ตาม ผลการพยากรณ์อากาศล่าสุดได้คาดการณ์ปริมาณน้ำฝนและหิมะที่จะเพิ่มขึ้นบริเวณเทือกเขาแอลป์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ภาพ: Alessandro Bremec / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
