ที่ราบสูงโกลันตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญทั้งในแง่ภูมิศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ โดยอิสราเอลยึดครองพื้นที่นี้จากซีเรียในช่วงสงคราม 6 วัน ปี 1967 ซึ่งเป็นผลจากการโจมตีเชิงป้องกันของอิสราเอลหลังความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น ในสงครามครั้งนั้นอิสราเอลสามารถเอาชนะกลุ่มประเทศอาหรับและยึดพื้นที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึงที่ราบสูงโกลันจากซีเรีย
หลังจากนั้น ในปี 1973 ซีเรียและอียิปต์ร่วมมือกันโจมตีอิสราเอลในสงครามยมคิปปูร์ แม้จะสร้างความประหลาดใจในช่วงแรก แต่ด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา อิสราเอลสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ และผลักดันกองทัพซีเรียออกจากพื้นที่โกลัน
ทั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงในปี 1974 ซึ่งจัดทำขึ้นภายใต้การดูแลขององค์การสหประชาชาติ (UN) กำหนดให้บางส่วนของที่ราบสูงโกลันเป็น ‘เขตปลอดทหาร’ และให้กองกำลังสหประชาชาติ (UNDOF) ทำหน้าที่สังเกตการณ์ ทว่าในปี 1981 อิสราเอลประกาศผนวกพื้นที่นี้อย่างเป็นทางการ แม้จะถูกปฏิเสธจากประชาคมโลก แต่ในทางปฏิบัติอิสราเอลปกครองพื้นที่นี้มานานกว่า 50 ปี
ทำไมที่ราบสูงโกลันถึงมีความสำคัญต่ออิสราเอล?
ที่ราบสูงโกลันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงและทรัพยากรของอิสราเอล ดังนี้
- ความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์: ด้วยภูมิประเทศที่สูง อิสราเอลสามารถมองเห็นทัศนวิสัยทั่วพื้นที่ซีเรียตอนใต้และอิสราเอลตอนเหนือ ทำให้โกลันกลายเป็น ‘แนวป้องกันธรรมชาติ’ จากภัยคุกคามทางทหาร
- ทรัพยากรน้ำ: ที่ราบสูงโกลันเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ โดยเฉพาะทะเลสาบกาลิลี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดหลักที่หล่อเลี้ยงประชากรอิสราเอล
- ความมั่นคงต่อภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธ: อิสราเอลมองว่าการครอบครองพื้นที่นี้ช่วยสกัดการแทรกซึมจากกลุ่มกองกำลังที่ไม่เป็นมิตร เช่น อิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
เหตุผลเบื้องหลังการโจมตีครั้งใหญ่ของอิสราเอลในซีเรีย
ภายหลังการล่มสลายของระบอบอัสซาด อิสราเอลฉวยโอกาสเปิดปฏิบัติการโจมตีทางทหารอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยโจมตีทางอากาศเกือบ 500 ครั้งภายในเวลาเพียง 2 วัน เป้าหมายหลักคือฐานทัพซีเรีย เส้นทางขนส่งอาวุธ และโรงเก็บอาวุธ ที่อาจตกไปอยู่ในมือของกลุ่มติดอาวุธ เช่น ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
อิสราเอลยังเคลื่อนกองกำลังเข้าไปในเขตปลอดทหารในที่ราบสูงโกลัน ซึ่งสะท้อนถึงยุทธศาสตร์เชิงรุกที่มุ่งขยายพื้นที่กันชน และป้องกันไม่ให้สุญญากาศทางอำนาจในซีเรียนำไปสู่การผงาดขึ้นมาของกลุ่มกองกำลังใหม่ที่ไม่เป็นมิตร
การประกาศโกลันเป็นของอิสราเอล: ชนวนขัดแย้งใหม่กับโลกอาหรับ?
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศชัดเจนว่า “ที่ราบสูงโกลันจะเป็นของอิสราเอลตลอดกาล” ซึ่งในมุมมองของ ผศ. ดร.มาโนชญ์ อารีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลาง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อธิบายว่า สิ่งนี้ไม่ต่างจากการประกาศเป็นศัตรูกับโลกอาหรับโดยตรง เนื่องจากที่ราบสูงโกลันยังถือเป็นดินแดนของซีเรียตามกฎหมายระหว่างประเทศ แม้ในทางพฤตินัยอิสราเอลจะประกาศครอบครองมานานกว่า 50 ปีก็ตาม
คำประกาศดังกล่าวทำให้หลายประเทศอาหรับ เช่น ซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ ออกมาประณามอย่างหนัก โดยมองว่าสิ่งที่อิสราเอลทำเป็นการละเมิดกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ อีกทั้งยังสร้างความกังวลว่าจะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งใหม่ในภูมิภาค ผศ. ดร.มาโนชญ์ ยังยกตัวอย่างถึงเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ ที่อิสราเอลใช้ยุทธวิธีโจมตีเข้าไปยังเลบานอนช่วงสงครามกลางเมืองในทศวรรษที่ 1970 ด้วย
อย่างไรก็ตาม คำประกาศของอิสราเอลเกี่ยวกับที่ราบสูงโกลัน และปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ในซีเรีย อาจบอกได้ว่าเป็นทั้งการส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นทางยุทธศาสตร์ของอิสราเอล และการท้าทายต่อภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง ท่ามกลางสุญญากาศทางอำนาจหลังการล่มสลายของรัฐบาลอัสซาด
ผศ. ดร.มาโนชญ์ ทิ้งท้ายว่า การเคลื่อนไหวนี้ของอิสราเอลไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความพยายามรักษาผลประโยชน์ของตนเองในภูมิภาคนี้ แต่ยังอาจเป็นการสร้าง ‘เมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้ง’ ครั้งใหม่ที่ลุกลามไปทั่วภูมิภาค และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับโลกอาหรับ รวมถึงผู้เล่นสำคัญอื่นๆ อย่างตุรกีและอิหร่าน ทวีความตึงเครียดมากขึ้น
ในอนาคตสถานการณ์นี้จะนำไปสู่การปะทะทางการทหาร การขยายเขตกันชน หรือการเปลี่ยนแปลงทางการทูตในภูมิภาคหรือไม่ ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไป
ภาพ: Ammar Awad TPX IMAGES OF THE DAY / Reuters
อ้างอิง: