กองทัพอิสราเอลส่งเครื่องบินรบปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายที่เป็นของกลุ่มติดอาวุธฮามาส ทั้งในพื้นที่ตอนใต้ของเลบานอนและฉนวนกาซา โดยระบุสาเหตุการโจมตี เพื่อตอบโต้การยิงจรวด 34 ลูก ข้ามชายแดนจากเลบานอนเข้าสู่พื้นที่ตอนเหนือของอิสราเอล เมื่อวานนี้ (6 เมษายน) ซึ่งอิสราเอลกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มฮามาส
โดยกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ทวีตข้อความว่า เครื่องบินรบของพวกเขาได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้ายที่เป็นของฮามาสในเลบานอน
“IDF จะไม่อนุญาตให้องค์กรก่อการร้ายฮามาสปฏิบัติการจากภายในเลบานอน และกำหนดให้รัฐเลบานอนต้องรับผิดชอบต่อทุกการยิงที่พุ่งตรงออกมาจากดินแดนของตน”
ทางด้านกลุ่มฮามาสไม่ได้ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือยิงจรวดใส่อิสราเอล ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในรอบ 34 ปี ขณะที่ประณามอย่างรุนแรงต่อการรุกรานของไซออนิสต์ต่อเลบานอน ในบริเวณใกล้เคียงกับเมืองไทร์เมื่อช่วงรุ่งสางวันนี้”
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธในกาซาก็ตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลด้วยการยิงจรวดอย่างน้อย 44 ลูกไปยังชายแดนตอนใต้ของอิสราเอล แต่ส่วนใหญ่ถูกระบบป้องกัน Iron Dome สกัดไว้ได้ โดยมีบางส่วนตกลงในพื้นที่เปิด และมีบ้านอย่างน้อย 1 หลังที่ถูกจรวดตกใส่
สถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวปะทุขึ้นภายหลังเกิดเหตุการณ์ตำรวจอิสราเอลนำกำลังบุกเข้าไปภายในมัสยิดศักดิ์สิทธิ์อัลอักซอในนครเยรูซาเล็ม ตลอด 2 คืนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อตามหาตัวผู้ก่อเหตุวุ่นวายที่หลบหนีเข้าไปภายในมัสยิด โดยการนำกำลังตำรวจบุกเข้าไป ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าและความไม่พอใจอย่างรุนแรงจากบรรดาชาวมุสลิมปาเลสไตน์ที่อยู่ภายใน
นอกจากนี้ ภายหลังการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลนานหลายชั่วโมง มีรายงานเหตุกราดยิงเกิดขึ้นใกล้กับพื้นที่นิคมของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ ส่งผลให้หญิงชาวอิสราเอล 2 คนซึ่งเป็นพี่น้องกันเสียชีวิต และมารดาได้รับบาดเจ็บสาหัส
ภาพ: KHAN YUNIS, PALESTINIAN TERRITORIES
อ้างอิง: