อิสราเอลเปิดฉากโจมตีโดยตรงต่ออิหร่านในเช้าวันเสาร์ (26 ตุลาคม) เพื่อตอบโต้การยิงขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามในระดับภูมิภาค
โดยกองทัพอิสราเอลระบุว่า การโจมตีครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ “เป้าหมายทางทหาร” ในอิหร่าน โดยไม่มีการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหรือจุดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางทหารแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน สื่อของรัฐอิหร่านรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดหลายจุดในกรุงเตหะรานตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ นอกจากนี้แหล่งข่าวของอิสราเอลยืนยันว่า ปฏิบัติการนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายชั่วโมง
ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นของอิหร่าน ชาวกรุงเตหะรานบันทึกภาพแสงไฟจากการโจมตีและเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงได้ ซึ่ง CNN ยืนยันว่ามาจากปฏิบัติการระลอกที่ 2 ของอิสราเอลที่มุ่งโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในประเทศอิหร่าน
รายงานจากสื่อกึ่งทางการ Tasnim และ Fars ระบุว่า เจ้าหน้าที่อิหร่านเปิดใช้งานระบบป้องกันทางอากาศในหลายพื้นที่รอบกรุงเตหะรานและบริเวณใกล้เคียง หลังเสียงระเบิดดังขึ้นทั่วประเทศในช่วงเช้ามืด
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประเมินสถานการณ์ความมั่นคงอย่างละเอียดที่ฐานทัพคิริยาในเทลอาวีฟ ท่ามกลางการโจมตีโดยตรงที่เกิดขึ้นกับอิหร่าน โดยมี โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงผู้นำกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลและหน่วยข่าวกรองสำคัญของประเทศอย่างมอสซาดและชินเบตเข้าร่วมประชุม ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมของอิสราเอลในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินและปรับกลยุทธ์ ซึ่งเนทันยาฮูอยู่ภายในบังเกอร์ในช่วงที่มีการโจมตีด้วย
ล่าสุดมีรายงานว่าปฏิบัติการตอบโต้ของอิสราเอลในอิหร่านสิ้นสุดลงแล้วหลังการโจมตี 3 ระลอก แต่เป้าหมายและความเสียหายจากการโจมตียังไม่ชัดเจน
ภาพ: Majid Asgaripour / WANA (West Asia News Agency) via Reuters
อ้างอิง: