ทุกช่วงสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะวันเสาร์ ประชาชนชาวอิสราเอลจำนวนมากต่างออกมาร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านแผนปฏิรูประบบตุลาการของรัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กันอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้นับเป็นสัปดาห์ที่ 29 แล้ว
ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนเดินขบวนประท้วงในหลายเมืองสำคัญทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองเทลอาวีฟ และเยรูซาเล็มตะวันตก เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว โดยพวกเขาต่างมองว่าแผนปฏิรูปศาลของเนทันยาฮูฉบับนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยของอิสราเอลและถ่ายโอนอำนาจให้กับระบอบอำนาจนิยมภายในประเทศแห่งนี้
แม้หลายฝ่ายจะเชื่อว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านมติเห็นชอบจากรัฐสภาในครั้งที่ 2 และ 3 ก่อนที่จะประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ประชาชนชาวอิสราเอลก็ยังคงหวังว่าแรงกดดันจากภาคประชาชนและภาคส่วนต่างๆ ที่ออกมาร่วมกันแสดงพลัง จะมากเพียงพอที่จะทำให้เนทันยาฮูทบทวนการผลักดันแผนปฏิรูปฉบับนี้ใหม่อีกครั้ง
ข้อกังวลในแผนปฏิรูปศาลของเนทันยาฮูคืออะไร?
ร่างกฎหมายปฏิรูประบอบตุลาการอิสราเอลของเนทันยาฮูมุ่งเน้นไปที่การจำกัดอำนาจศาลสูงสุด หลังจากที่เขามองว่าศาลสูงสุดเข้าแทรกแซงการเมืองมากจนเกินไป อีกทั้งยังมองว่าระบอบตุลาการของประเทศนี้ยังเคยถูกใช้เป็นเครื่องมือในการพยายามผลักเขาออกจากอำนาจบริหารและเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลมาแล้ว
ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จะเปิดทางให้รัฐสภาอิสราเอลสามารถลงมติคัดค้านคำพิพากษาหรือมติของศาลสูงสุดได้ ทั้งยังเปิดโอกาสให้รัฐสภาเป็นผู้มีสิทธิชี้ขาดในการคัดเลือกหรือแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุดของอิสราเอลอีกด้วย
เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐสภามีมติเห็นชอบร่างปฏิรูปศาลเป็นครั้งแรก ด้วยเสียงสนับสนุน 64 ต่อ 56 เสียง แม้ฝ่ายค้านจะประกาศเตือนว่าแผนปฏิรูปดังกล่าวจะทำลายระบบตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจรัฐบาลก็ตาม จึงยิ่งทำให้การประชุมประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วอิสราเอลยกระดับขึ้นอย่างมาก
โดยวันนี้ (24 กรกฎาคม) รัฐสภาอิสราเอลเตรียมลงมติพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปศาลฉบับเพิ่มเติม ที่จะมัดมือชกและจำกัดอำนาจของศาลสูงสุด เพื่อป้องกันไม่ให้ศาลสูงสุดปฏิเสธการตัดสินใจของรัฐบาลหากมีความไม่สมเหตุสมผลเกิดขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลอิสราเอลยังได้เน้นย้ำว่าศาลสูงสุดของอิสราเอลมีอำนาจมากเกินไป อีกทั้งยังไม่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนโดยตรงดังเช่นรัฐบาล จึงจำเป็นที่จะต้องลดทอนอำนาจของศาลสูงสุดลง ในขณะที่นักวิจารณ์จำนวนมากต่างมองว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะผลักดันให้อิสราเอลก้าวเข้าสู่ยุคเผด็จการอำนาจนิยมของรัฐบาลฝ่ายขวาสุดโต่ง
ผู้ชุมนุมประท้วงชาวอิสราเอลมองว่าเนทันยาฮูที่ยังคงอยู่ในกระบวนการพิจารณาไต่สวนเกี่ยวกับคดีทุจริตคอร์รัปชัน พยายามที่จะแต่งตั้งพรรคพวกของตนเองให้เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญในทางการเมือง และพยายามหาทางยับยั้งคำตัดสินของศาล ในกรณีที่เขาตรวจพบความผิด ซึ่งเบื้องต้นเนทันยาฮูปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ทำไมแผนปฏิรูปศาลจึงสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในอิสราเอล?
เหตุผลสำคัญที่ทำให้แผนปฏิรูปศาลฉบับนี้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญในอิสราเอลเป็นเพราะว่า โครงสร้างระบอบประชาธิปไตยของประเทศนี้ค่อนข้างอ่อนแอ ไม่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษร รัฐบาลครองเสียงข้างมากในรัฐสภาที่เป็นแบบระบบสภาเดี่ยว ไม่มีระบบถ่วงดุลและตรวจสอบอย่างระบบสองสภา โดยมีทำเนียบประธานาธิบดีทำหน้าที่ในเชิงพิธีการเท่านั้น
ทำให้ศาลสูงสุดอิสราเอลได้รับการมองว่าเป็นองค์กรหลักเพียงองค์กรเดียวที่ปกป้องคุ้มครองสิทธิของพลเมืองและหลักนิติธรรม อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบอำนาจฝ่ายบริหารของรัฐบาลอิสราเอลอีกด้วย
นักสิทธิมนุษยชนต่างแสดงความกังวลว่าถ้าระบบตุลาการของอิสราเอลอ่อนแอลง ในขณะที่อำนาจของรัฐบาลอิสราเอลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มีแนวคิดสนับสนุนระบอบปิตาธิปไตย (ระบอบสังคมที่ชายเป็นใหญ่) จะทำให้ปมปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์มีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากสมาชิกรัฐบาลส่วนใหญ่สนับสนุนการผนวกรวมเขตเวสต์แบงก์แบบเต็มรูปแบบ ตลอดจนแนวนโยบายต่อต้านกลุ่ม LGBTQIA+ รวมถึงผู้หญิงและชาวปาเลสไตน์ในอิสราเอลก็จะยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วย
การชุมนุมประท้วงได้ผลมากน้อยแค่ไหน?
นับตั้งแต่ที่รัฐบาลเนทันยาฮูประกาศจะผลักดันแผนปฏิรูปศาลเมื่อช่วงต้นปี 2023 ก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายเมืองสำคัญทั่วประเทศ บรรดาพันธมิตรและกลุ่มนักลงทุนต่างรับรู้ถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง ค่าเงินสกุลนิวเชเกลของอิสราเอลตกลงอย่างมาก จนทำให้เนทันยาฮูเคยตัดสินใจชะลอการผลักดันแผนปฏิรูปศาล เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับบรรดาพรรคฝ่ายค้านที่ส่งเสียงทักท้วงและทัดทาน เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
การเจรจาหยุดชะงักลงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในขณะที่เนทันยาฮูก็ยินยอมเปลี่ยนแปลงบางจุดในร่างกฎหมาย หลังจากที่เขาเห็นผลเสียของความพยายามที่จะยกเครื่องระบอบตุลาการอิสราเอลใหม่ทั้งหมด จึงเปลี่ยนวิธีการมาเป็นเพิ่มร่างกฎหมายฉบับเพิ่มเติมในประเด็นสำคัญๆ แทน
จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้?
โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลเผยว่า ขณะนี้กำลังจะเกิดการบอยคอตครั้งใหญ่ในกองทัพอิสราเอล หลังเขาเผยว่ามีชาวอิสราเอลจำนวนไม่น้อยปฏิเสธที่จะเข้าประจำการในกองทัพอิสราเอล หากการยกเครื่องระบบตุลาการในอิสราเอลได้รับมติเห็นชอบจนประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยเขาพยายามที่จะเจรจากับเนทันยาฮู เพื่อหาทางชะลอการลงมติพิจารณาแผนปฏิรูปศาลที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ออกไปอีก ซึ่งคาดว่าจะมีทหารกองหนุนอีกราว 10,000 คนประกาศจุดยืนในทำนองเดียวกันนั้น หากร่างกฎหมายฉบับเพิ่มเติมได้รับมติเห็นชอบจากรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม หากศาลสูงสุดมีมติคัดค้านการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เนทันยาฮูและบรรดาพันธมิตรของเขาจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับคำตัดสินของศาลสูงสุดหรือไม่ หรือจะยังคงเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้จนประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายให้แล้วเสร็จ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนที่จะนำไปสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญครั้งสำคัญของอิสราเอลก็เป็นได้
ในขณะที่ชุมนุมประท้วงมีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น ภาคประชาชนต่างได้รับการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ ในสังคม โดยเฉพาะบรรดาทหารกองหนุน บุคลากรทางด้านการแพทย์ และ CEO ของแหล่งเงินทุนและสถาบันทางการเงินจำนวนไม่น้อย โดยพวกเขาตั้งเป้าจะปักหลักกางเต็นท์อยู่บริเวณสวนสาธารณะ Central Park ใกล้กับรัฐสภาอิสราเอล พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด โดยมุ่งหวังว่ารัฐบาลและรัฐสภาอิสราเอลจะได้ยินเสียงของพวกเขาในฐานะประชาชนของประเทศนี้ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศตัวจริง
หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า หากรัฐสภามีมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวและประกาศบังคับใช้ อาจผลักให้สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของอิสราเอลเข้าสู่สภาวะสงครามกลางเมืองก็เป็นได้
ภาพ: Eyal Warshavsky / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: