การทำแท้งเป็นหนึ่งในประเด็นทางสังคมที่ถูกถกเถียงกันมากที่สุด ล่าสุดรัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศจะจัดการลงประชามติเกี่ยวกับการปฏิรูปกฎหมายทำแท้งภายในประเทศในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ โดยในปัจจุบันการทำแท้งสามารถทำได้ในกรณีที่การตั้งครรภ์นั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของแม่ผู้ตั้งครรภ์ ไม่นับรวมกรณีที่เกิดตั้งครรภ์จากการข่มขืน มีเพศสัมพันธ์กับบุคคลร่วมสายเลือด และความผิดปกติของเด็กขณะอยู่ภายในครรภ์ของผู้เป็นแม่
ด้านนายกรัฐมนตรีลีโอ วารัดคาร์ (Leo Varadkar) เปิดเผยว่า จะสนับสนุนให้มีการปฏิรูปกฎหมายนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการลงประประชามติที่จะจัดขึ้นนั้นเป็นการชี้ชะตาว่า ชาวไอริชส่วนใหญ่ต้องการให้มีการแก้ไขมาตรา 40.3.3 ในรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้เกี่ยวกับการห้ามทำแท้งอย่างเสรี อันเป็นผลมาจากการประชามติเมื่อปี 1983 หรือไม่
นายลีโอยังระบุอีกว่า “ประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุดหรือแย่ที่สุด ไม่ใช่ประเด็นขาวหรือดำ แต่เป็นประเด็นสีเทาๆ ที่สะท้อนสมดุลระหว่างสิทธิในการตั้งครรภ์ของผู้หญิงและสิทธิในการที่จะมีชีวิตอยู่ของเด็กทารก” เขายังกล่าวอีกว่า ทุกๆ ปีจะมีชาวไอริชจำนวนมากเดินทางไปทำแท้งยังต่างประเทศ บ้างก็สั่งยาขับเลือดมาทางออนไลน์ มาทานเองที่บ้าน เนื่องจากการทำแท้งในไอร์แลนด์ยังคงไม่ปลอดภัย ยังคงเป็นข้อถกเถียงและผิดกฎหมาย
กรมอนามัยของสหราชอาณาจักรเผยว่า ในปี 2016 ที่ผ่านมา มีชาวไอริชเดินทางไปทำแท้งยังคลินิกในอังกฤษและเวลส์กว่า 3,265 คน โดยรายงานสหประชาชาติเมื่อปี 2013 ชี้ว่า ประเทศส่วนใหญ่ที่อนุญาตให้เข้าถึงการทำแท้งได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใหญ่มักเป็นประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยอาจยินยอมให้มีการทำแท้งได้ หากเด็กในครรภ์อาจเป็นอันตรายต่อแม่ผู้ตั้งครรภ์ ครรภ์ที่เกิดจากการถูกข่มขืน และครรภ์ที่ตัวอ่อนมีความผิดปกติรุนแรง
Photo: AFP
อ้างอิง: