อิหร่านส่งฝูงโดรนระเบิดและระดมยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลเมื่อค่ำวันเสาร์ (13 เมษายน) ซึ่งถือเป็นการโจมตีโดยตรงต่อดินแดนอิสราเอลเป็นครั้งแรก และเป็นสัญญาณว่าสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคกำลังทวีความรุนแรงขึ้น ในขณะที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งแกร่ง
พล.ร.ต แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า อิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธมากกว่า 200 ลูก ทั้งขีปนาวุธภาคพื้นดินและขีปนาวุธร่อน อย่างไรก็ดี อาวุธส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้นได้นอกพรมแดนอิสราเอล มีเพียงสถานที่ทางทหารแห่งหนึ่งของอิสราเอลได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย
รายงานข่าวระบุว่า ได้ยินเสียงหนักๆ ตกพื้น และเสียงดังปังกึกก้อง ท่ามกลางเสียงไซเรนที่ดังโหยหวนไปทั่ว ก่อนที่กองทัพจะออกมายุติสัญญาณเตือนในเวลาต่อมา ขณะที่มีรายงานด้วยว่า เด็กหญิงวัย 7 ขวบรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส
ก่อนหน้านี้ อิหร่านได้ออกมาประกาศลั่นว่าจะตอบโต้อิสราเอลที่โจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่อิหร่านเสียชีวิต 7 นาย ซึ่งรวมถึงผู้บัญชาการอาวุโส 2 นาย ขณะที่อิสราเอลไม่ได้ออกมายืนยันหรือปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีสถานกงสุลดังกล่าว
“หากรัฐบาลอิสราเอลทำผิดพลาดอีกครั้ง การตอบสนองของอิหร่านจะรุนแรงกว่านี้มาก” คณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติกล่าว พร้อมเตือนสหรัฐฯ ให้ “อยู่ห่างๆ ไว้”
สหประชาชาตินัดประชุมด่วน-สหรัฐฯ ลั่นพร้อมยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ประณามการโจมตีของอิหร่าน และกล่าวว่า เขาตื่นตระหนกอย่างยิ่งกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาค
สหภาพยุโรป, อังกฤษ, ฝรั่งเศส ,เม็กซิโก, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, นอร์เวย์ และเนเธอร์แลนด์ ต่างออกมาประณามการโจมตีอิสราเอลของอิหร่านเช่นกัน
ขณะที่อียิปต์ มหาอำนาจของภูมิภาค เรียกร้องให้ทุกฝ่าย “ยับยั้งชั่งใจอย่างถึงที่สุด”
นักการทูตรายหนึ่งเปิดเผยว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นัดประชุมฉุกเฉินในเวลา 16.00 น. ของวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ (เวลา 03.00 น. วันจันทร์ที่ 15 เมษายน ตามเวลาไทย) หลังจากที่อิสราเอลร้องขอให้คณะมนตรีฯ ประณามการโจมตีของอิหร่าน และประกาศให้กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเป็นองค์กรก่อการร้าย
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเยือนรัฐเดลาแวร์ บ้านเกิดในช่วงสุดสัปดาห์ ได้เลื่อนกำหนดกลับทำเนียบขาวเร็วขึ้น และเรียกประชุมที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีต่างประเทศ ในห้อง White House Situation Room โดยเขาให้คำมั่นว่าจะยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล
“พันธกิจของเราในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของอิสราเอลจากภัยคุกคามของอิหร่าน และตัวแทนของอิหร่านนั้นแข็งแกร่งมาก” เขาโพสต์ข้อความผ่าน X หลังการประชุมร่วมกับที่ปรึกษาและรัฐมนตรี
สถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอลรายงานว่า เครื่องบินรบของสหรัฐฯ และอังกฤษร่วมยิงโดรนที่มุ่งหน้าสู่อิสราเอลตกเหนือพื้นที่ชายแดนอิรัก-ซีเรีย ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 คนเผยว่า กองทัพสหรัฐฯ สามารถยิงเครื่องบินโดรนหลายสิบลำตกก่อนที่จะพุ่งตรงถึงเป้าหมายในอิสราเอล
อิสราเอลพร้อมตอบโต้
สถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอลรายงานอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งว่า จะมีการ “ตอบโต้อย่างมีนัยสำคัญ” ต่อการโจมตีดังกล่าวของอิหร่าน
ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีสงครามที่กองบัญชาการทหารแห่งหนึ่งในเทลอาวีฟ
ทั้งนี้ อิสราเอลเตรียมพร้อมตั้งรับการตอบโต้ของอิหร่านตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ออกมาประกาศกร้าวว่า “อิสราเอลต้องถูกลงโทษ” สำหรับการโจมตีสถานกงสุลดามัสกัส ซึ่งเทียบเท่ากับการโจมตีแผ่นดินของอิหร่าน
สงครามฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลกับฮามาสซึ่งขณะนี้เข้าสู่เดือนที่ 7 ทำให้เกิดความตึงเครียดทั่วภูมิภาค โดยลุกลามไปถึงการเผชิญหน้ากับเลบานอนและซีเรีย ตลอดจนการโจมตีระยะไกลจากเยเมนและอิรักเข้าใส่เป้าหมายของอิสราเอล
Ambrey บริษัทด้านความมั่นคงทางทะเลของสหราชอาณาจักร ระบุในแถลงการณ์ว่า มีรายงานว่าโดรนที่ยิงโจมตีอิสราเอลนั้น ส่วนหนึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มฮูตีซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่านในเยเมนด้วย
อิสราเอลและอิหร่านเป็นศัตรูกันมานานหลายทศวรรษ อย่างไรก็ดี การโจมตีของอิหร่านต่ออิสราเอลในครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีโดยตรงต่อดินแดนอิสราเอลเป็นครั้งแรก โดยที่ผ่านมา ความบาดหมางอันยาวนานของพวกเขาส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านทางกองกำลังตัวแทน หรือโดยการมุ่งเป้าไปที่กองกำลังของกันและกันที่ปฏิบัติการในประเทศที่สาม
ภาพ: Reuters
อ้างอิง: