หุ้นใหม่เดินหน้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ กันคึกคัก สำรวจพบ 3 เดือนสุดท้ายจ่อเข้าเทรดอีก 6 บริษัทเป็นอย่างน้อย
เมื่อ 20 ตุลาคม บมจ.พีรพัฒน์ เทคโนโลยี (PRAPAT) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอเป็นวันแรก ด้วยราคา IPO 1.50 บาท โดยหุ้น PRAPAT เปิดการซื้อขายที่ 1.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 6.66% จากราคา IPO ระหว่างวันราคาปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.83 บาท
วีระพงศ์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี กล่าวว่า การเข้าซื้อขายวันแรกน่าพอใจ นักลงทุนให้การตอบรับที่ดี สะท้อนได้จากราคาหุ้นที่ยืนเหนือราคา IPO ทั้งนี้บริษัทยืนยันว่าจะนำเงินระดมทุนไปขยายคลังสินค้า ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ที่ผ่านมายอดขายจะลดลงค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นผลกระทบจากการล็อกดาวน์ประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
“เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เรื่องโควิด-19 คลี่คลาย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเป็นปกติ บริษัทจะได้รับอานิสงส์ที่เร็วกว่ากลุ่มอื่น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม กลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มร้านอาหาร เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นสินค้าจำเป็นด้านการอนามัย และเมื่อสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจกลับเป็นปกติ อาทิ ประเทศไทยเปิดประเทศและการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง การเติบโตของบริษัทก็จะกลับเป็นปกติ” สืบพงศ์ เกตุนุติ รองประธานกรรมการบริษัทและผู้ก่อตั้ง บมจ.พีรพัฒน์ เทคโนโลยี กล่าว
ทั้งนี้บริษัทยอมรับว่ายอดขายปี 2563 จะต่ำกว่าปีที่แล้วประมาณ 15% หรือมีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนปี 2564 คาดหวังว่ายอดขายมีการเติบโต 10% จากปีนี้ หรือมีรายได้ราว 900 ล้านบาท และในปี 2564 บริษัทจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่ม รวมถึงขยายช่องทางการจำหน่ายไปสู่ตลาดออนไลน์มากขึ้น
จากการสำรวจบริษัทที่สนใจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในช่วงที่เหลือของปี พบว่ามีอย่างน้อย 6 บริษัทที่มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ประกอบด้วย
บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เสนอขายหุ้น IPO ของ SCGP ครั้งนี้มีจำนวนไม่เกิน 1,127.6 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายเบื้องต้นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายแก่ประชาชนเป็นการทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 35 บาทต่อหุ้น เปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อเมื่อวันที่ 1-2 และ 5 ตุลาคม 2563 และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม บริษัทจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 22 ตุลาคมนี้
บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) (SFT) มีแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 120 ล้านหุ้น กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 3.80 บาท จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 19-22 ตุลาคม 2563 และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2563
บมจ.ดีเฮาส์พัฒนา (DHOUSE) จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในเดือนนี้ โดยบริษัทเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 217.20 ล้านหุ้น ราคา IPO 0.60 บาท เปิดจองเมื่อวันที่ 16-20 ตุลาคมที่ผ่านมา
บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยมี บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บมจ.พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง (PROS) ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่ระบุว่า บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ต่อ ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท จะทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 270 ล้านบาท จากเดิม 200 ล้านบาท
บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่ระบุว่า ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือไฟลิ่ง ของ LEO เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทวางแผนเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น และวางแผนเดินสายโรดโชว์เสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์แก่นักลงทุน จำนวน 4 จังหวัด ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม 2563 ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ที่กรุงเทพมหานคร
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
