‘บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ผู้ทำธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของไทย ระบุว่ากำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น ที่ราคา 21 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดให้จองซื้อวันที่ 14-16 ธันวาคม 2565 พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในเดือนธันวาคมนี้
บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์อีก 4 ราย เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ MOSHI ประกอบด้วย
- บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
- บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)
- บล.ธนชาต
- บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 12 หุ้นปันผล 2565 ขึ้น XD (9-12 พ.ค. 2565) อัตราปันผลสูงเกิน 5% ขึ้นไป
- 9 หุ้น จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 5% ตลอด 5 ปี แถมราคาตั้งแต่ต้นปียังบวก
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65
สง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้นำในตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดตั้งแต่ปี 2562 และในปี 2564 มีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) เป็นอันดับหนึ่งสูงถึง 37.6% โดยปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 มีสาขาของ MOSHI ทั้งสิ้น 101 สาขา ครอบคลุมถึง 41 จังหวัด
ทั้งนี้ MOSHI มีกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านแนวทาง
- ขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่อง ไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวมถึงหัวเมืองใหญ่ โดยตั้งเป้ามีสาขารวมกันไม่ต่ำกว่า 165 สาขา ภายในปี 2568
- เพิ่มการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (Same Store Sales Growth: SSSG) โดยมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าใหม่ปีละมากกว่า 8,000 SKUs
- เพิ่มความสามารถในการเติบโตของกำไร โดยปรับสัดส่วนสินค้า (Product Mix) มุ่งเน้นสินค้าที่มีกำไรสูง
- ลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) อย่างต่อเนื่อง
- พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและธุรกิจใหม่ๆ ให้ความสำคัญกับช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ (Online) นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายสาขาในรูปแบบ Stand Alone ในพื้นที่ใกล้แหล่งชุมชน โรงเรียน และสถานที่ทำงาน อีกทั้งเตรียมขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ในจังหวัดรอง เพื่อต่อยอดธุรกิจสู่การเติบโตในอนาคต
- พัฒนาทรัพยากรบุคคลในแต่ละสาขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานขายหน้าร้าน และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
ด้าน ศุภรดา โรจน์วัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 1,263.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 131.27 ล้านบาท ขณะที่ผลงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 1,253.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 788.40 ล้านบาท ซึ่งอัตราเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) เพิ่มขึ้น 50.1%
โดยปัจจัยความสำเร็จมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น 6 สาขา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้เป็นอย่างดี
ขณะที่กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 ทำได้ 134.63 ล้านบาท เติบโต 192% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายในอัตราที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร
ขณะที่ พงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น ได้กำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่ราคา 21 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสม สะท้อนพื้นฐานและศักยภาพในการเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย
ทั้งนี้ MOSHI มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 240 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 240 ล้านหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม จำนวนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น และเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการ IPO ในครั้งนี้
โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจ ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงภาระหนี้อื่นที่บริษัทอาจมีขึ้นในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท