หลังเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ในโอกาสครบรอบ 10 ปี iPhone ไปเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา อีก 2 วันที่จะถึงนี้ (3 พ.ย.) iPhone X ก็จะได้ฤกษ์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในหลายๆ ประเทศแล้ว
ส่วนในประเทศไทยก็คงต้องรออย่างมีความหวังกันต่อไป เพราะตอนนี้ทาง Apple ประเทศไทย ยังไม่ได้ประกาศข้อมูลเรื่องวันเวลาวางจำหน่ายออกมาทั้งสิ้น มีเพียงแต่ราคาจำหน่ายที่สูงลิบลิ่ว (รุ่นความจุ 64GB ราคา 40,500 บาท, รุ่นความจุ 256GB ราคา 46,500 บาท) คล้ายว่าประกาศออกมาให้เราได้เตรียมหยอดเงินในกระปุกล่วงหน้า!
แต่ก่อนจะถึงวันที่ได้สัมผัส iPhone X ด้วยตัวเองแบบเต็มไม้เต็มมือ สื่อต่างประเทศหลายๆ สำนักก็เริ่มได้ทดลองเล่นและรีวิวกันแล้ว วันนี้เราจึงถือโอกาสรวบรวมความเห็นของสื่อที่ได้ทดลองใช้งาน iPhone รุ่นพิเศษนี้มาให้คุณได้ลองอ่านกันเพื่อใช้ประกอบและกระตุ้นการตัดสินใจไปพลางๆ
ประเดิมด้วย Face ID ฟีเจอร์ที่ใครหลายคนหวั่นใจ
ถ้าจะบอกว่า Face ID เป็นคุณสมบัติที่เด่นที่สุดของ iPhone X ก็คงไม่ผิดนัก
แต่ในอีกแง่หนึ่ง Apple เองก็ต้องเผชิญกับความกดดันที่ถาโถมเข้ามาอย่างหนักเช่นกัน หลังระบบการปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้านี้ถูกตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงานทั้งจากผู้บริโภคและสื่อหลายๆ สำนัก
ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน Apple เคลมว่า Face ID ของพวกเขาทำงานโดยอาศัยกล้อง TrueDepth, เซนเซอร์ต่างๆ และ Neural Engine ทำให้สามารถประมวลผลได้รวดเร็ว ทำงานได้ดี และยังจดจำใบหน้าของผู้ใช้ได้แม่นยำ ไม่ว่าลักษณะทางกายภาพและกาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน
ขณะที่ด้านความปลอดภัย พวกเขาบอกว่าแม้แต่ภาพถ่ายหรือฝาแฝดก็ไม่สามารถหลอก Face ID ได้ ส่วนความผิดพลาดในการประมวลผลจะมีโอกาสเกิดขึ้นเป็นอัตราส่วนแค่ 1:1,000,000 ครั้งเท่านั้น ต่างจาก Touch ID ที่อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นคิดเป็นอัตราส่วน 1:50,000 ครั้ง
แล้วเมื่อใช้งานจริง ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรล่ะ?
อเล็กซ์ เครนซ์ (Alex Cranz) นักเขียนจากเว็บไซต์ Gizmodo ได้เขียนบทความรีวิวการใช้งาน iPhone X เบื้องต้นโดยให้ความสำคัญกับการทดสอบระบบ Face ID เป็นหลัก และแสดงทัศนะไว้ว่าบางครั้งเธอก็รู้สึกว่าการใช้งาน Face ID ไม่สะดวกสบายอยู่บ้าง ไม่สามารถปลดล็อกได้ในระหว่างที่อยู่ในกระเป๋า เพราะต้องหยิบมันออกมาเพื่อสแกนด้วยใบหน้า คล้ายกับว่าเป็นการเพิ่มขั้นตอนในการปลดล็อกโทรศัพท์มากกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี แม้เครนซ์จะตำหนิ iPhone X เรื่องขั้นตอนความยุ่งยากของ Face ID แต่เธอก็กล่าวชมประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมและแทบจะไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นเลย แม้เธอจะลองถอดแว่นตาออกหรือปลดล็อกในห้องมืดๆ ก็ตาม
แต่สำหรับการสแกนใบหน้าผู้ใช้งานในครั้งแรกสุด เครนซ์แนะนำว่าควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมหรือที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อให้ระบบจดจำใบหน้าของคุณได้รวดเร็วและแม่นยำที่สุด นอกจากนี้เธอยังบอกอีกด้วยว่ากล้องถ่ายรูปและหน้าจอของ iPhone X คือสองส่วนที่ดีที่สุดของมันเลยก็ว่าได้!
สอดคล้องกับความเห็นของบิลล์ โรเบอร์สัน (Bill Roberson) นักเขียนจากเว็บไซต์ Digitaltrends ที่บอกว่าระบบการทำงานของ Face ID ค่อนข้างลื่นไหลและประมวลผลได้จนแทบจะไม่มีข้อผิดพลาดเลย หรือหากมีปัญหาก็ยังปลดล็อกเครื่องผ่านรหัส Pin ได้อยู่ดี
นิโคล เหงียน (Nicole Nguyen) นักเขียนจาก Buzzfeed ดูจะเป็นคนที่ได้ทดสอบความสามารถของ Face ID ได้รอบด้านมากที่สุดคนหนึ่ง เมื่อเธอได้รับ iPhone X มาทดสอบในช่วงที่เธอถูกยุงกัดบริเวณเปลือกตาจนมันบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในช่วงแรกเธอก็แอบกังวลใจเช่นกันว่าระบบ Face ID อาจจะจำเธอไม่ได้ หลังจากที่ผิวหนังบริเวณเปลือกตาคืนสภาพปกติและหายเป็นปลิดทิ้ง
แต่ผิดคาด! เพราะเธอบอกว่าระบบจดจำใบหน้าของ Apple สามารถทำงานได้เป็นอย่างดีและไม่ยุ่งยากเหมือนระบบเดียวกันบนสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ มีเพียงแค่ช่องโหว่เรื่องการประมวลผลที่เธอบอกว่าไม่ได้เร็วกว่าการสแกนลายนิ้วมือ
โดยเฉพาะระบบการปลดล็อกด้วยใบหน้าที่เหงียนพบว่าพี่น้องฝาแฝดก็สามารถปลดล็อกเครื่องแทนกันได้ดื้อๆ ซะอย่างนั้น เช่นเดียวกับ Mashable ที่พบข้อผิดพลาดประการนี้เหมือนกัน หลังนำฝาแฝด 2 คู่มาทดสอบปลดล็อกเครื่อง และพบว่าแฝดอีกคนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ iPhone X และทำการสแกนใบหน้าไว้ก็สามารถปลดล็อกแทนแฝดเจ้าของเครื่องอีกคนได้แบบง่ายๆ เลย
รูปร่างหน้าตาของสมาร์ทโฟนไร้ปุ่มโฮม!
การตัดปุ่มโฮมออกไปจากตัวเครื่องจนหน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้วของ iPhone X ไร้ขอบคือดีไซน์ที่หลายๆ คนต่างก็เทใจตกหลุมรัก แต่การคงเหลือส่วนของกล้องหน้าและระบบเซนเซอร์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้กับระบบ Face ID ที่ขอบด้านบนตัวเครื่องก็กลายเป็นจุดที่สร้างความรำคาญให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
โดยโรเบอร์สันบอกว่า แม้หน้าจอของตัวเครื่อง iPhone X จะน่าประทับใจมากๆ แต่ในส่วนของกล้องหน้าและเซนเซอร์ Face ID ที่ห้อยลงมาก็ทำให้เขารู้สึกแย่อยู่บ้าง
ด้านไนเลย์ พาเทล (Nilay Patel) นักข่าวจากเว็บไซต์ The Verge เป็นอีกคนที่ตอกย้ำความเชื่อของโรเบอร์สัน โดยบอกว่าติ่งเซนเซอร์และกล้องด้านหน้าเครื่องเป็นอะไรที่น่าเกลียดมากๆ และขอบตัวเครื่องรวมถึงขอบเลนส์กล้องที่ใช้วัสดุโครเมียมสีเงินมันวาวก็เป็นส่วนที่ผู้ใช้ต้องระวังรอยขีดข่วนเป็นพิเศษ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พาเทลยอมรับว่าหน้าจอและการแสดงผลของมันยอดเยี่ยมแบบสุดๆ ไปเลย
และเมื่อมีการตัดปุ่มโฮมออกไปจากตัวเครื่อง การใช้งานปุ่มบังคับก็จะต่างไปจากเดิมพอสมควร เช่น หากต้องการแคปเจอร์หน้าจอก็จะต้องกดปุ่มเพิ่มเสียงและปุ่มเปิด/ปิดเครื่องค้างไว้พร้อมกัน หรือหากต้องการเรียกใช้งาน Siri ก็ต้องกดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้
มีเพียงแค่แมททิว พานซาริโน (Matthew Panzarino) จาก Techcrunch เท่าน้ันที่มองเรื่องของการใช้งานเป็นหลัก และไม่ได้รู้สึกว่าแถบเซนเซอร์และกล้องหน้าเป็นอุปสรรคในการใช้โทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เขารู้สึกว่าประสิทธิภาพของการถ่ายรูปแบบ TrueDepth (Portrait Lighting) และการสแกนใบหน้าเป็นส่ิงที่ทำให้เขาประทับใจมากๆ และก็พอจะทดแทนข้อจำกัดของดีไซน์ดังกล่าวได้อยู่บ้าง
ประสิทธิภาพของกล้องถ่ายรูป
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นของกล้องถ่ายรูป iPhone X นั้นมาพร้อมกับกล้องหลังเลนส์คู่แบบแนวตั้งที่ 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงที่ f 1.8 และ f 2.4 เสริมด้วยแฟลชแบบ Quad-LED True Tone ส่วนกล้องหน้าจะเป็นแบบ TrueDepth ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพเซลฟีแบบ Portrait Lighting ได้ โดยภาพที่ได้ออกมาจะเหมือนกับการจัดแสงถ่ายภาพในสตูดิโอ
พาเทลบอกว่าเขายังไม่ได้ทดลองเล่นกล้องถ่ายรูปของมันมากนัก แต่ถ้าจะให้นิยามสั้นๆ เขารู้สึกว่าประสิทธิภาพของมันไม่ได้ต่างจากกล้องถ่ายรูปของ iPhone 8 สักเท่าไร ส่วนระบบป้องกันการสั่นไหวและการเซลฟีด้วยโหมด Portrait Lighting ก็ทำงานได้ดีพอสมควร
ทางฝั่งพานซาริโนที่ได้ลองเปรียบเทียบใช้กล้องถ่ายรูปของ iPhone 8 Plus และ iPhone X พร้อมๆ กันพบว่าเมื่อถ่ายภาพในระยะเดียวกัน ภาพที่ได้จากกล้อง iPhone X จะถูกครอปสัดส่วนลงมาเล็กน้อย แต่หากไม่สังเกตก็จะไม่รู้สึกถึงความต่างมากขนาดนั้น ด้านฟีเจอร์ป้องกันการสั่นไหวถือว่าทำงานได้น่าพอใจเลยทีเดียว เพราะช่วยให้ภาพที่ได้ออกมายังมีรายละเอียดต่างๆ ที่คมชัดและไม่เบลอ
แลนซ์ อูลานอฟ (Lance Ulanoff) อีกหนึ่งผู้รีวิวจาก Mashable ให้ความเห็นว่า โหมดการถ่ายภาพ Portrait ใน iPhone X นั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียว โดยเฉพาะตอนนี้ที่สามารถใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวได้ทั้งกับกล้องหน้าและกล้องหลัง เช่น เดียวกับการถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่แสงสว่างไม่เพียงพอ แต่จะให้ดีที่สุด อูลานอฟแนะนำว่าแสงสว่างที่เหมาะสมจะช่วยให้ภาพเซลฟีในโหมด Portrait สวยงามขึ้นไปอีกระดับ
ขณะที่การใช้กล้องด้านหลังตัวเครื่องถ่ายภาพ เจ้าตัวได้ลองเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนคู่แข่งอย่าง Samsung Note 8 และพบว่าทั้งคู่มีประสิทธิภาพที่ดีสูสีกัน เพียงเเต่ภาพที่ได้จากกล้องของ iPhone X จะให้โทนสีที่เป็นธรรมชาติเหมือนภาพที่เรามองจากดวงตามากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
บทสรุปเบื้องต้น
แม้นักรีวิวส่วนใหญ่ดูจะมีความเห็นหลังการทดลองใช้งาน iPhone X ในหลายๆ จุดที่เสียงแตกอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้เราสบายใจได้คือการทำงานของระบบ Face ID ที่ไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนจินตนาการ เพราะผู้วิจารณ์ต่างฝ่ายต่างก็บอกว่าระบบการสแกนด้วยหน้าของ Apple สามารถประมวลผลและทำงานได้น่าพึงพอใจ เพียงแต่อาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างประปราย เช่น คู่ฝาเเฝดที่สามารถปลดล็อกเครื่องของแฝดอีกคนได้ แม้ตัวเองจะไม่เคยสแกนใบหน้าไว้ก็ตาม
ส่วนเรื่องของดีไซน์ก็มีข้อตำหนิอยู่บ้าง ในส่วนของแถบเซนเซอร์และกล้องหน้าบนหน้าจอเครื่อง แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันจึงทำให้ Apple ยังไม่สามารถ ‘ซ่อน’ แผงดังกล่าวไม่ให้รบกวนสายตาผู้ใช้งานได้ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ บางทีทิม คุก อาจจะรู้วิธีจัดการกับมันก็ได้ ใครจะรู้?
ปิดท้ายด้วยกล้องถ่ายรูป ส่วนที่ผู้วิจารณ์ทั้งหลายเลือกตำหนิน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ากิตติศัพท์กล้องถ่ายรูปของ iPhone นั้นให้คุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมาได้สมจริงเหมือนโทนสีที่ตามนุษย์มอง กล้องถ่ายรูปของ iPhone X จึงดูจะเป็นฟีเจอร์ที่ลอยลำเข้าเส้นชัยแบบไร้ข้อกังขาใดๆ เลยก็ว่าได้
สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทยอย่างเราก็คงได้แต่เฝ้ารอคอยวันเวลาที่จะได้ทดลองหยิบจับและสัมผัสเครื่องด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น ทุกคนก็น่าจะพูดได้เต็มปากว่า iPhone X ดีหรือไม่ดีอย่างไร และเพราะอะไร?
Photo: Apple
อ้างอิง:
- gizmodo.com/iphone-x-first-look-lets-talk-about-that-whole-face-id-1819989200
- www.digitaltrends.com/dt-daily/apple-iphone-x-4/
- www.buzzfeed.com/nicolenguyen/iphone-x-review?utm_term=.iukVN51v8#.voN8BAvLG
- www.recode.net/2017/10/31/16581236/iphone-x-review-review
- www.theverge.com/2017/10/31/16579748/apple-iphone-x-review
- techcrunch.com/2017/10/31/review-the-iphone-x-goes-to-disneyland/
- mashable.com/2017/10/31/apple-iphone-x-review/?utm_cid=mash-com-Tw-main-link#L0AgqJ5Zfaqf