×

รีวิว iPhone Air สวยจริง บางจริง แต่ความคุ้มค่าอาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

20.09.2025
  • LOADING...
ภาพรีวิว iPhone Air ดีไซน์บางเบา จอบิ๊กชัดเจน กล้องหลังเลนส์เดียว

นี่คือ iPhone ที่น่าจะถูกจับตามองมากที่สุดจากทั้งแฟนบอยของ Apple และคนที่ไม่ใช่เป็นสาวก ด้วยความที่เป็นผลงานการออกแบบครั้งใหม่หมดจดครั้งแรกในรอบระยะเวลาร่วมสิบปี และสามารถสร้างความประทับใจแรกให้กับใครหลายคนได้ตั้งแต่ในวันเปิดตัว

 

เพียงแต่คำถามที่น่าสนใจคือเมื่อใช้งานจริงอยู่บนมือของเรา เจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ดีพอหรือไม่

 

นับตั้งแต่การเปิดตัวโทรศัพท์อัจฉริยะที่เปลี่ยนโลกในปี 2007 ต้องยอมรับว่า iPhone Air เป็นหนึ่งในรุ่นที่ออกแบบมาได้สวยที่สุดรุ่นหนึ่ง ที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึก Love at first sight ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรก

 

iPhone Air รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่หมดจด ตั้งชื่อตามคุณสมบัติสำคัญ 2 อย่างคือ ความบาง (5.6 มิลลิเมตร) และความเบา (165 กรัม) ให้ความรู้สึกเหมือนสายลม (Air) ซึ่งต้องบอกว่าเมื่อได้สัมผัสกับของจริงนั้นบางและเบาจริง 

 

ต่างจากความรู้สึกตอนถือ iPhone 16 Pro Max มาก รวมถึงให้ความรู้สึกที่หรูหรา พรีเมียม และท้าทายความรู้สึกอย่างมากว่าจะยอมวัดใจใช้แบบไม่ใส่เคสไหม (แต่ขอบที่เคลือบไว้นั้นเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก)

 

สิ่งที่น่าประทับใจคือไม่ได้สวยอย่างเดียวในเชิงของประสิทธิภาพการทำงานแล้ว iPhone Air เร็วและแรง เพราะใช้ชิปเซ็ต A19 Pro ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวเดียวกับ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ที่เป็นสายประสิทธิภาพ ดังนั้นไว้ใจได้ในเรื่องการใช้งาน แม้ว่ามันจะแลกมาด้วยความรู้สึก ‘อุ่นๆ’ ในมือ ซึ่งมาจากประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงแต่บอดี้มีความบาง

 

จุดเด่นที่ชัดเจนอีกอย่างคือจอภาพรุ่นใหม่ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่า iPhone 17 Pro (และ iPhone 17) เล็กน้อยแต่พอรู้สึกได้ว่าเป็นขนาดที่กำลังดีทีเดียว ซึ่งจอนี้อัพเกรดอัตรารีเฟรชเป็น 120 Hz แล้ว เพียงแต่สำหรับการใช้งานทั่วไป ไถโซเชียล อ่านข่าว ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างจาก iPhone รุ่นก่อนแต่อย่างใด 

 

สิ่งที่ดีอีกอย่างคือกล้องหน้าที่อัพเกรดใหม่เช่นเดียวกับรุ่นอื่นในไลน์อัพ นอกจากความชัดจะเพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้านพิกเซล ยังสามารถปรับจากแนวตั้งเป็นแนวนอนได้ รวมถึงมีฟีเจอร์ทีเด็ดการถ่ายกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน อันนี้ถือว่าดีเลย

 

สิ่งที่ ‘เอ๊ะ’ หลักๆสำหรับ iPhone Air คือกล้องหลังที่มีเพียงตัวเดียว ถึงจะอัพเกรดเป็น 48 ล้านพิกเซลแต่การมีกล้องระยะเดียวกลายเป็นข้อจำกัด ถ่ายมุมอัลตราไวด์ไม่ได้ เทเลไม่ได้ และแน่นอนว่ามาโครก็ไม่ได้ ทำให้รู้สึกเหมือนใช้รุ่น iPhone 16E ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุดอยู่ ทั้งๆที่จ่ายในราคาอีกนิดเดียวจะได้รุ่นโปรแล้ว (ส่วนต่าง 4,000 บาท) 

 

สำหรับคนที่ชอบการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมผ่านลำโพงแล้ว iPhone Air อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนะ ด้วยความที่มีลำโพงเพียงตัวเดียว เสียงที่ออกมานั้นอยู่ในระดับแค่พอไหว ไม่ได้ว้าวหรือสร้างความประทับใจอะไรได้ 

 

ขณะที่แบตเตอรี่การใช้งานความจุแบตเตอรี่ 3,149 mAh นั้น ในการใช้งานจริงแบบยังไม่ครบวันก็ถือว่าทนใช้ได้ แต่หากเป็นคนที่ใช้งานหนัก เช่น ดูวิดีโอ เล่นเกม อาจจะต้องพกพาวเวอร์แบงก์ไว้อุ่นใจกว่า 

 

เนื่องจากพื้นที่ที่จำกัดและมีค่า iPhone Air จึงเป็นรุ่นที่รองรับ eSIM เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีช่องใส่ซิมการ์ดจริง เพราะขนาดค่อนข้างใหญ่และใช้พื้นที่มาก จึงถูกจัดสรรใหม่สำหรับแบตเตอรี่ ดังนั้นใครที่จะซื้อรุ่นนี้จึงเป็นหนึ่งในข้อจำกัดที่ต้องทราบไว้ ซึ่งสำหรับในบ้านเรานั้นการใช้ eSIM ไม่ได้ยุ่งยากแล้ว เดินไปที่ร้านของค่ายมือถือก็เปิดได้เลย

 

ทีนี้ย้อนกลับมาคำถามสำคัญสำหรับคนที่สนใจว่า โทรศัพท์ที่สวยขนาดนี้ กับคุณสมบัติประมาณนี้กับราคาเริ่มต้น 39,900 และความจุเริ่มต้น 256GB คุ้มค่าไหม? มันจะใช่โทรศัพท์ใหม่ของคุณหรือเปล่า? 

 

บางทีคำตอบมันอาจปรากฏในใจตั้งแต่แรกเห็น แรกสัมผัสแล้วก็ได้ ก็เหมือนกับความรักบางครั้งมันไม่ต้องใช้เหตุผลอะไรนำทาง

 

นี่คือ iPhone ที่เกิดมาเพื่อความรู้สึกล้วนๆ ถ้ามันใช่ มันก็ใช่

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising