ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (6 มกราคม) เปิดตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สามติดต่อกัน ที่ระดับสูงสุด 1,512.93 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด จากวันก่อนหน้า ก่อนจะพลิกกลับมาอยู่ในแดนลบ โดยติดลบไปสูงสุด 4.51 จุด แตะระดับ 1,502.14 จุด
อย่างไรก็ดี หุ้นในกลุ่มพลังงานสามารถปรับขึ้นได้อย่างโดดเด่น หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสประกาศผลการประชุมหลังจากซาอุดีอาระเบียจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2564 ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานนี้ปรับขึ้นราว 5% ล่าสุด ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ประมาณ 50.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ประมาณ 54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ผลการประชุมดังกล่าวออกมาเซอร์ไพรส์เชิงบวก โดยสรุปโควตาลดการผลิตของโอเปกพลัสเดือนมกราคม -7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เดือนกุมภาพันธ์ -8.125 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเดือนมีนาคม -8.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่าดีกว่าคาดการณ์ของเราก่อนหน้า ทำให้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบปีนี้มีอัปไซด์
ประเด็นดังกล่าวเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้ โดยเฉพาะกลุ่มอิงกับน้ำมันดิบ เช่น PTT, PTTEP และ PTTGC นอกจากนี้ ช่วงเช้าวันนี้ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และรายงานสต๊อกน้ำมันดิบของ API ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือน หลังจากโอเปกพลัสคงกำลังการผลิตตามเดิม แต่อนุญาตให้รัสเซียและคาซัคสถานผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นรวมกันไม่เกิน 75,000 บาร์เรลต่อวัน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับที่รัสเซียเรียกร้องที่ 5 แสนบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกันซาอุดีอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 9.125 เหลือ 8.125 ล้านบาร์เรลต่อวัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์