บรรดานักลงทุนในตลาด Wall Street ต่างออกมาคาดการณ์ทิศทางความผันผวนของตลาดหุ้นและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในรอบสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้
รายงานระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีการซื้อขายในกรอบแคบเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลัก เนื่องจากเหล่านักเทรดต่างพากันรอดูผลการพูดคุยระหว่าง เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีกำหนดจะหารือกันในช่วงบ่ายวันจันทร์นี้ (22 พฤษภาคม) หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายมีการต่อสายตรงพูดคุยหารือกันในวันอาทิตย์ (21 พฤษภาคม) ซึ่งแมคคาร์ธีเปิดเผยว่า การหารือเป็นไปในเชิงบวก
อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะเวลาที่เหลือไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนถึงกำหนดเส้นตาย 1 มิถุนายน ตามที่ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ออกโรงเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าหากยังไม่สามารถขยายเพดานหนี้ได้ทันกำหนด รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด จนเกิดการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจสร้าง ‘หายนะ’ ปั่นป่วนตลาดหุ้น ค่าเงินดอลลาร์ และดันให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้นอีกได้
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเจรจาขยายเพดานหนี้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยไม่พึงประสงค์สำหรับนักลงทุนที่ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจนโยบายครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน โดยนักยุทธศาสตร์ของ JPMorgan Chase & Co. และ Morgan Stanley ได้เตือนว่า หากสหรัฐฯ ไม่สามารถหาข้อตกลงขยายเพดาหนี้ได้ทันกำหนดก็จะคุกคามการซื้อขายในตลาด
รายงานระบุว่า ขณะนี้บรรดาเทรดเดอร์เริ่มสะสม Swap และตัวเลือกสำหรับสกุลเงินหลักเพื่อป้องกันพอร์ตการลงทุนของตัวเอง
ขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 พฤษภาคม) คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกโรงเรียกร้องให้บรรดานักการเมืองสหรัฐฯ ยุติความขัดแย้ง
คาโรล กง (Carol Kong) นักยุทธศาสตร์จาก Commonwealth Bank of Australia กล่าวว่า แม้จะมีพาดหัวข่าวในเชิงบวกชวนให้ใจชื้นขึ้นได้บ้าง แต่จากประวัติศาสตร์การเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่ผ่านมา บ่งชี้ได้ว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯ มีโอกาสจะยื้อจนถึงนาทีสุดท้าย ส่งผลให้ช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ตลาดยังคงมีความผันผวน
กงชี้ว่า หากสามารถบรรลุข้อตกลงได้เมื่อใด โฟกัสก็จะเปลี่ยนกลับไปเป็นข้อมูลเศรษฐกิจและทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ หรือ Fed อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ทิศทางเงินดอลลาร์ในระยะยาวจะยังคงมีการแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยต่อไป
แม้จะมีรายงานว่าบรรดานักลงทุนในตลาดต่างก็เตรียมความพร้อมรับมือต่อกรณีที่เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว โดยเฉพาะภาคธนาคาร แต่ผลการสำรวจล่าสุดของ Bank of America พบว่า 71% ของนักลงทุนไม่มีความพร้อมที่จะรับมือกับกรณีผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ และทั้งหมดคาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงได้ทันกำหนด
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 มีการขยับปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางความหวังว่าจะได้ข้อสรุป มาตรวัดความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือน โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ของตลาดที่ต้องการหลุมหลบภัยที่ปลอดภัย (Safe Haven) และความหวังที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
อ้างอิง: