×

4 หน่วยลงพื้นที่ตรวจสอบหลังเกิดเหตุอดีตผู้กำกับโจ้ จบชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม เร่งคลี่คลายปมถูกทำร้ายร่างกายเมื่อเดือนมกราคม

โดย THE STANDARD TEAM
08.03.2025
  • LOADING...

วันนี้ (8 มีนาคม) ที่ เรือนจำกลางคลองเปรม พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ เผด็จ หริ่งรอด ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ร่วมชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผู้กำกับโจ้ (ผู้ต้องขังคดีคลุมถุงดำผู้ต้องหายาเสพติดระหว่างทำการสอบสวนเมื่อปี 2564)

 

พ.ต.อ. ทวี เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งวันนี้ได้มีหน่วยงานทั้งหมด 4 ฝ่าย ประกอบด้วย อัยการ ฝ่ายปกครอง หมอ และพนักงานสอบสวน รวมถึงครอบครัวที่มี แม่ ภรรยา และน้องสาว เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมไปถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้

 

เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอ โดยการใช้ผ้าขนหนูความยาว 30-40 เซนติเมตรผูกกับลูกกรงประตู ซึ่งผ้าอยู่ในระดับหน้าอก ทางเรือนจำมีกล้องวงจรปิด บันทึกภาพทางเดินที่ทำให้เห็นว่าไม่มีผู้ใดเข้าออกในห้องขังของอดีตผู้กำกับโจ้ มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่ที่นำยาเข้าไปให้ตามเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตลงแล้ว ส่วนจะเป็นการเสียชีวิตก่อนหรือหลังผูกคอจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางเราจะยังไม่ตัดประเด็นเรื่องที่ผู้อื่นทำให้ตาย

 

ส่วนในเรื่องของการชันสูตรพลิกศพรวมไปถึงการวินิจฉัยให้เป็นความเห็นของทางแพทย์ ซึ่งทางครอบครัวอยากให้นำศพไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรอพิสูจน์ข้อเท็จจริง ก่อนที่จะส่งศพคืนให้ครอบครัว ส่วนกรณีที่ครอบครัวติดใจในเรื่องของการเสียชีวิตครั้งนี้ แล้วจะเก็บร่างไว้จนกว่าจะพิสูจน์ความจริงก็เป็นสิทธิของทางญาติ โดยทางคณะทำงานก็จะพยายามทำให้โปร่งใสที่สุด เพื่อความเชื่อมั่นของประชาชน โดยคณะกรรมการจะมีการตรวจพยานหลักฐาน

 

สำหรับกรณีที่มีการแจ้งความในเรื่องของการถูกทำร้ายร่างกายของอดีตผู้กำกับโจ้ภายในเรือนจำเมื่อเดือนมกราคม ได้มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยทางตัวอดีตผู้กำกับโจ้ระบุว่า ถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย ทางเรือนจำเองก็มีการตั้งคณะกรรมการภายในตรวจสอบแล้ว และเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ที่ทำร้าย เรื่องดังกล่าวจึงยังไม่มีข้อสรุป 

 

ด้านสหการณ์กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนกับผู้ต้องขังอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าภายในเรือนจำมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพทุกจุด ยกเว้นภายในห้องนอนที่ถือว่าเป็นสิทธิมนุษยชน

 

สำหรับมาตรการของต้องห้ามที่จะนำไปสู่การก่อเหตุ มีความเข้มงวดในเรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าผ้าที่ผู้เสียชีวิตใช้ก่อเหตุเป็นการอนุโลมของเรือนจำให้กับผู้ต้องขังทุกคน เนื่องจากช่วงนี้มีอากาศร้อนจึงให้ไว้ซับเหงื่อ ซึ่งในขณะที่ผู้กำกับโจ้ก่อเหตุเป็นช่วงเวลานอนที่อยู่ในห้องปิดทึบ และอยู่เพียงคนเดียวจึงไม่มีใครเห็น โดยเหตุผลที่ต้องอยู่ห้องขังแยกเพียงผู้เดียวเนื่องจากผู้ต้องขังร้องขอเอง ไม่ได้มีการจับขังเดี่ยว เพราะวิตกกังวลกลัวคนทำร้าย และทำให้ตัวผู้ต้องขังรู้สึกปลอดภัยมากกว่า 

 

ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ก็มีมาตรการดูแลผู้ป่วยโดยการให้ยาตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตามอาการ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเราก็ได้มีการประเมินไว้แล้ว โดยไม่พบว่าทางตัวอดีตผู้กำกับโจ้จะก่อเหตุ

 

ขณะที่เผด็จกล่าวว่า อดีตผู้กำกับโจ้มีการทำเรื่องไปยังกรมราชทัณฑ์เพื่อจะแยกขังเดี่ยวมาเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากที่มีปัญหาปากเสียงกับเพื่อนร่วมห้องขัง โดยได้ถูกย้ายจากแดน 7 ไปแดน 5 ส่วนการมีปัญหากับเจ้าหน้าที่นั้น ด้านเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในเรือนจำ 

 

ส่วนที่ครอบครัวแจ้งความว่าอดีตผู้กำกับถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย โดยนำเอกสารจากทางทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่มีการออกใบรับรองแพทย์ว่า มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณซี่โครงด้านซ้าย ที่แพทย์ให้ความเห็นเป็นการถูกของแข็งไม่มีคม แต่จะเกิดจากการกระทำของเพื่อนร่วมห้องขังหรือผู้คุมนั้นยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ในส่วนนี้ก็เป็นสิทธิของครอบครัวที่สามารถไปแจ้งความได้ ซึ่งส่วนนี้ต้องรอทางพนักงานสอบสวนพิสูจน์ 

 

พร้อมกับยืนยันว่าที่ผ่านมาผู้กำกับโจ้ไม่ได้ป่วยจิตเวช เพราะว่ามาตรการของเรือนจำหากพบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่เป็นเพียงการรักษาตามอาการกังวลและเครียดเท่านั้น

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising