วันนี้ (1 กุมภาพันธ์) พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ชี้แจ้งความคืบหน้าการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สภ.) มาบตาพุด กรณีน้ำมันรั่วไหลจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล บริเวณละติจูด 12”29”17.2 เหนือ ลองจิจูด 101”11”56.7 ตะวันออก ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 25 มกราคม เวลาประมาณ 21.00 น.
เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง ได้มอบหมายให้ อรพิน ท่วงที เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด เพื่อดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จนถึงที่สุด ในฐานความผิดกระทำด้วยประการใดๆ ให้น้ำมันและเคมีภัณฑ์หรือสิ่งใดๆ ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทย อันอาจจะเป็นเหตุให้เกิดพิษต่อสิ่งมีชีวิตหรือต่อสิ่งแวดล้อมหรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบดังกล่าว อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 14) มาตรา 119 ทวิ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนได้ประสานงานศูนย์พิสูจน์หลักฐานระยอง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง สำนักงานศุลกากรมาบตาพุด สำนักงานควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง สำนักงานอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (จังหวัดระยอง) และหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบ สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของการรั่วไหล ตลอดจนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และพนักงานสอบสวนได้มีหมายเรียกไปยัง SPRC หรือผู้แทนให้มาพบเพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุการรั่วไหลของน้ำมันดิบและให้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน
ต่อมาในวันที่ 30 มกราคม คณะพนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการสอบสวนปากคำประชาชนที่ได้รับผลกระทบกรณีคราบน้ำมันรั่วไหลในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง จำนวน 15 ราย และสอบสวนปากคำประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอเพ จังหวัดระยอง จำนวน 4 ราย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ต่อมาในวันที่ 31 มกราคม สำนักงานประมงจังหวัดระยอง ได้มอบหมายให้ กุณสมบัติ ศิริสมบัติ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง (เจ้าพนักงานประมงอาวุโส) มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดในความผิดตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 58 มาตรา 59 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 140 ระวางโทษปรับสามแสนบาทถึงห้าแสนบาท พนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ. กฤษณะกล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และยังเป็นการสร้างปัญหามลพิษทางทะเลให้แก่ระบบนิเวศมากขึ้น ซึ่งมีผลกระทบในระยะยาว ซึ่งไม่ง่ายที่จะขจัดคราบน้ำมันให้หมดไปในคราวเดียว โดยในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามอำนาจหน้าที่ การรวบรวมพยานหลักฐานต้องกระทำอย่างรอบคอบและอาศัยความร่วมมือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และจะได้รายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป
นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง