สัมภาษณ์พิเศษ Steve Toussaint และ Eve Best จากซีรีส์ House of the Dragon

โลกของ Game of Thrones และทวีป Westeros กำลังจะกลับมาคืนสู่จอแก้วอีกครั้ง หลัง HBO ประกาศสร้างซีรีส์ภาคต้น (Prequel) ฟอร์มยักษ์อย่าง House of the Dragon ที่มีรายงานว่าทางค่ายทุ่มทุนสร้างมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์ต่อตอน

แน่นอนว่าจากงบประมาณที่สูง ก็ตามมาด้วยความคาดหวังอันท่วมท้นจากแฟนๆ ที่ผิดหวังกับภาคสุดท้ายของ Game of Thrones อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดย House of the Dragon เรื่องราวสองศตวรรษก่อนสงครามห้ากษัตริย์ ว่าด้วยเรื่องราวของตระกูลทาร์แกเรียนในยุคเรืองอำนาจ (ก่อน Daenerys Targaryen เกิด) ทั้งการแย่งชิงบัลลังก์ภายในตระกูล และสงครามกลางเมือง หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ Dance of the Dragons ซึ่งเรากำลังจะได้เจอกับตัวละครชุดใหม่ทั้งหมด ทั้ง Emma D’Arcy, Matt Smith, Paddy Considine, Olivia Cooke และอีกมากมาย

ในวันนี้ THE STANDARD POP ได้สองนักแสดงหลักของซีรีส์ ทั้ง Steve Toussaint นักแสดงชาวอังกฤษ ที่เคยฝากผลงานจากเรื่อง Prince of Persia: The Sands of Time ผู้รับบท Corlys Velaryon แห่งตระกูล Velaryon และนักผจญภัยทางทะเล ผู้ได้รับฉายาอสรพิษแห่งท้องทะเล (The Sea Snake)

และ Eve Best นักแสดงและผู้กำกับชาวอังกฤษ ผู้รับบท Rhaenys Velaryon ผู้ขี่มังกร และภรรยาของ Corlys ที่ไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง ซึ่งทั้งสองจะมาพูดคุยถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมแสดงซีรีส์เรื่องนี้ การเตรียมตัว และสิ่งที่ซีรีส์เป็นกระจกสะท้อนสังคมอย่างเรื่องปิตาธิปไตย

รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในผลงานของ George R. R. Martin

Eve: รู้สึกดีมากเลยค่ะ เพราะเราเพิ่งได้เจอ George ตัวเป็นๆ เมื่อไม่นานนี้เอง ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร แต่สำหรับฉัน ฉันนึกภาพเขาในฐานะนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ เหมือนพ่อมดใน The Wizard of Oz ที่สูง 7 ฟุต มีแสงออร่ารอบตัว หรืออะไรทำนองนั้น แต่จริงๆ แล้วเขาทั้งน่ารักและเป็นกันเองมากๆ กับหุ่นท้วมๆ แบบถ้าเราจับเขาแต่งชุดสีแดง จะเหมือนกับเรากำลังฉลองคริสต์มาส หรือเพิ่งลุกออกจากเตียง

Steve: ซึ่งมันแปลกมาก เพราะว่าถ้าคุณดู Game of Thrones และอ่านบท คุณจะได้เจอกับความโหดเหี้ยม ความรุนแรงป่าเถื่อน เลือดนอง แต่พอคุณมาเจอ George เขาเหมือนคุณลุงผมสีเทาที่กระตือรือร้นกับทุกอย่าง แถมยังตกใจที่คนอินกับผลงานของเขาขนาดนั้น เขาเป็นคนที่พิเศษและน่ารักมากจริงๆ

แล้วนอกจาก George แล้ว พอคุณได้เข้ามาในโลก Westeros มีอะไรเซอร์ไพรส์คุณสองคนบ้างไหม

Steve: น่าจะเป็นเรื่องฉากเลยครับ มันยิ่งใหญ่อลังการมาก เราเพิ่งคุยกันเรื่องห้องบัลลังก์ ซึ่งเป็นห้องโถงขนาดมโหฬารที่ดูทะมึน พร้อมกับเสาขนาดยักษ์ที่มีรูปปั้นห้อยลงมาด้วย เหมือนตึกระฟ้าเลย งานฝีมือและรายละเอียดชั้นครู ชนิดที่ทุ่มงบไม่อั้นเป็นอะไรที่สุดยอดและได้ใจผมมากๆ

อย่างที่เรารู้กัน แฟนๆ คาดหวังกับซีรีส์เรื่องนี้มาก ทุกอย่างจัดเต็ม ทั้งงบและโปรดักชัน เพื่อชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนจบของ Game of Thrones ซีซันสุดท้าย คุณรู้สึกกดดันไหมที่ต้องเผชิญหน้ากับแฟนคลับที่เหนียวแน่นที่สุดในโลก

Eve: กดดันแน่นอนค่ะ เช่นเดียวกัน ฉันไม่รู้ว่า Steve ทำอย่างไร แต่สำหรับฉันคิดว่า ทางเดียวที่จะจัดการกับแรงกดดันคือ ต้องไม่นึกถึงมันเลย ไม่อย่างนั้นหัวคุณระเบิดแน่ ฉันเลยแกล้งทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ กับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันคิดว่ามันมีอยู่แล้วแหละเรื่องความกดดัน มันเหมือนกับฉันกำลังจะปล่อยอัลบั้มที่สอง ต่อจากอัลบั้มแรกที่ดังและกวาดรางวัลแกรมมี่ และคุณรู้ว่าการสานต่อเป็นสิ่งที่ยาก แต่โชคดีที่เรามีคนเก่งๆ และทำหน้าที่ของเราให้ดี และพยายามไม่ให้อะไรมารบกวนคุณ

Steve: ผมเห็นด้วยกับคุณนะ ผมคิดว่ามีบางครั้งที่ผมรู้สึกกดดัน ตอนที่รู้ว่าจะได้มาเล่นเรื่องนี้ ก็เริ่มคิดเลยว่าต้องทำออกมาให้ดีให้ได้ ซึ่งในฐานะนักแสดงมันเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่เซอร์ไพรส์ผมก็คือ ตอนที่นึกถึงความคาดหวังทั้งหมดนี้ ทั้งเรื่องงบที่ใช้ ผมจะไปคุยกับผู้สร้างทั้ง Ryan และ Miguel ถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ได้นอนหรือเปล่า แต่พวกเขาชิลมาก แล้วก็จะคอยส่งกำลังใจให้ผม ผมทึ่งมากว่าพวกเขาทำได้อย่างไร ในจุดที่พวกเขาต้องควบคุมทุกอย่าง ผมคงปวดหัวตายถ้าต้องอยู่ในจุดนั้น และต้องจัดการกับความคาดหวังที่มี

House of the Dragon ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง Fire & Blood คุณได้ใช้มันมาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง และการสร้างตัวละครของคุณบ้างไหม หรือยึดแค่บทซีรีส์ที่ได้มา

Steve: แค่บทซีรีส์อย่างเดียวเลยครับ จริงๆ เราทุกคนได้หนังสือเรื่องนี้ที่มีลายเซ็นของ George แต่ผมเลือกที่จะไม่อ่านมัน ด้วยเหตุผลสองอย่าง อย่างแรกเลยนั่นคือตัวละครเวอร์ชันที่ทั้ง Ryan และ Miguel หรือ George เขียนขึ้นมาสำหรับเวอร์ชันซีรีส์ มันเป็นเหมือนแม่แบบของเรื่องนี้ และมีคนบอกผมว่าไม่ต้องอ่านเวอร์ชันหนังสือจะดีที่สุด เพราะมันถูกเขียนในมุมมองของผู้เล่าอีกแบบ

Eve: ใช่ ไม่อย่างนั้นมันจะเหมือนกับพระคัมภีร์ไบเบิล ที่มีการตีความไม่เหมือนกัน ไหนจะเวอร์ชันของนักบุญเปาโล และนักบุญอีกหลายคน ไหนจะพระคัมภีร์ไบเบิลเล่มใหม่ของพระวรสาร คนนี้ว่าแบบนั้น คนนั้นว่าแบบนี้ Sea Snake พูดแบบนั้นในหนังสือ ภรรยาเขาเป็นแบบนี้ ซึ่งมันจะสับสนวุ่นวาย เราเลยไม่ได้ยึดตามหนังสือ เพราะตัวละครในนั้นไม่แน่นอน บทเวอร์ชันซีรีส์จึงเพียงพอแล้วสำหรับเรา

ทั้ง Corlys และ Rhaenys Velaryon เป็นคาแรกเตอร์ที่มีความซับซ้อนมากๆ อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการสวมบทบาททั้งสองตัวละคร

Steve: สิ่งที่ยากที่สุดของผมคือการทำให้ทุกด้านของตัวละครน่าเชื่อถือ อย่างเช่น มีฉากหนึ่งที่เขาต้องกรีดร่างคนตั้งแต่หน้าผากลงมาถึงสะดือ และตามมาด้วยฉากที่เขาต้องกลับมาบ้านเพื่อนั่งเล่นกับลูกสาว ซึ่งต้องทำให้มันดูสมจริงทั้งสองด้าน

Eve: ส่วนของ Rhaenys เธอเป็นตัวละครที่นิสัยดีมากๆ แต่มีความกำกวมตรงที่เธอพูดน้อย แต่เหมือนเธอเก็บความรู้สึกเอาไว้ข้างใน เธอไม่แสดงออกหรือว่าสุงสิงกับใคร จนกระทั่งตอนหลังๆ ของซีซันเธอถึงจะเปิดเผยมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องอดีตของเธอที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร มีจุดยืนอย่างไร ไม่มีปากมีเสียง เพราะเธออยู่ท่ามกลางผู้ชายที่มีอำนาจ สิ่งเหล่านี้รวมกันจึงทำให้เธอเป็นตัวละครที่น่าสนใจมาก

ซึ่งผมกำลังจะถามต่อเลย เพราะคุณเคยให้สัมภาษณ์ว่า House of the Dragon คือซีรีส์ที่จะตั้งคำถามเรื่องปิตาธิปไตย

Eve: เรื่องนี้มันเกี่ยวพันกับเรื่องสังคมปิตาธิปไตยที่ส่งต่อกันมาเป็นร้อยๆ ปี ซึ่งตัวละครของฉันเคยเกือบจะได้ครองบัลลังก์แล้วตั้งตอนแรกของซีรีส์ แต่เธอดันเป็นผู้หญิง และถึงแม้ว่าเธอเป็นคนเหมาะสมที่สุดก็ตาม ซึ่งการได้มองดูระบบความคิดนั้นสั่นคลอนตลอดทั้งเรื่องเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก และมันสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของเรา และในโลกของ Westeros

และคุณคิดว่าสังคมปิตาธิปไตยส่งผลต่อตัวละครผู้ชายไหม Steve

Steve: เป็นคำถามที่ดีครับ มันน่าสนใจมาก ผมคิดว่าเป็นเรื่องของอำนาจที่พวกเขามี คนที่มีอำนาจจะไม่ปล่อยให้อำนาจนั้นหลุดมือ เพราะถ้าให้อำนาจนั้นไปเขาจะเสียทุกอย่าง ซึ่งผมว่าผู้ชายกำลังเผชิญสิ่งนั้นอยู่ พวกเขาอยู่กับสิทธิพิเศษและความสบายมานาน จนไม่สนใจฟังเสียงคนอื่นที่เฝ้าบอกว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันไม่ถูก แต่เราต้องฟังแล้วหัดเป็นผู้ตาม และฟังเสียงคนกลุ่มอื่นบ้าง

คำถามสุดท้ายครับ ถึงแม้ว่า Corlys Velaryon จะมีฉายาว่า The Sea Snake นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ แต่คุณเสียใจไหมที่เป็นคนเดียวที่ไม่ได้ขี่มังกร

Steve: ผมเสียใจมากเลยที่ไม่ได้ขี่มังกร เพราะเป็นอย่างเดียวที่ผมนึกถึงตอนได้มาเล่นเรื่องนี้ แบบว่าได้ขี่มังกรสักหน่อยก็คงจะดี แต่พอผมมาประชุมกับทีมแล้วถามพวกเขาว่า ผมจะได้ขี่มังกรเมื่อไร เขาบอกว่าผมไม่ได้ขี่ ซึ่งผมเศร้าอยู่พักหนึ่ง แต่นั่นแหละ ผมเสียใจที่ไม่ได้ขี่มังกร