เริ่มออกอากาศอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยสำหรับรายการ Busted! รายการ K-Variety ที่ร่วมมือกับ Netflix ในการผลิตออริจินัลคอนเทนต์แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งคราวนี้จะไม่เพียงแค่คนในประเทศเกาหลีใต้หรือประเทศแถบเอเชียเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกของ Netflix จาก 190 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับชมรายการนี้ไปพร้อมๆ กัน

 

โดยมีทีมโปรดิวเซอร์จากรายการสุดฮิตอย่าง Running Man มาดำเนินการผลิตทั้งหมด พร้อมกับนักแสดงอย่าง ยูแจซอก พิธีกรผู้ได้รับฉายา ‘เอ็มซีแห่งชาติ’, อีกวางซู ‘เจ้าชายแห่งเอเชีย’ 2 แกนนำหลักจาก Running Man ที่ยังคงอยู่เป็นกำลังสำคัญร่วมกับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง อันแจอุคและคิมจองมิน ร่วมด้วย ปาร์คมินยอง นักแสดงสาวมากความสามารถ ปิดท้ายด้วยทีม K-Pop Stars อย่าง คิมเซจอง แห่งวง Gugudan และ โอเซฮุน แห่งวง EXO มาสร้างความสนุกในครั้งนี้

 

คอนเซปต์หลักของรายการ Busted! คือทั้ง 7 คนจะสวมบทบาทเป็นนักสืบที่มีความถนัดและคาแรกเตอร์แตกต่างกัน เพื่อร่วมไขคดีฆาตกรรมปริศนาในสถานการณ์ต่างๆ เช่น เกมนักสืบ, โชว์มายากล, ล่าสมบัติ, เกาะแวมไพร์, การไล่จับในเมือง ฯลฯ ทุกคนต้องใช้ทั้งไหวพริบ เล่ห์เหลี่ยม ร่างกายที่แข็งแกร่ง ไปจนถึง ‘ดวง’ ที่ต้องแข็งแกร่งไม่แพ้ร่างกาย

 

ถ้ายังเห็นภาพไม่ชัด วันนี้ THE STANDARD ได้รับโอกาสสุดพิเศษ ด้วยการบินไปร่วมงานเปิดตัวรายการ Busted! ถึงประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งได้พูดคุยกับนักแสดงทั้ง 7 คนในรายการ เพื่อมาแบ่งปันความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่าย ให้ทุกคนได้รู้ว่าไม่มีอะไรในรายการนี้ได้มาง่ายๆ แม้แต่อย่างเดียว

 

Running Man ในเวอร์ชันจริงจังมากกว่าเดิม

 

 

ถึงแม้จะปล่อยออกมาแค่ 2 ตอน แต่ก็พอมองเห็นทิศทางของรายการแล้วว่ายังคงคอนเซปต์รายการวาไรตี้ที่เล่นกับแอ็กชันตลกๆ ของนักแสดงที่ร่วมรายการเอาไว้ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการวางพล็อตเรื่องที่จริงจังมากขึ้น ลดน้ำหนักในส่วนเกมการแข่งขันตลกๆ ออกไป และเน้นหนักที่บทของแต่ละอีพีที่สร้างขึ้นมาอย่างสมจริง ไม่ต่างจากดูซีรีส์สืบสวนสอบสวนเรื่องหนึ่ง

 

เพราะฉะนั้นถ้าใครคาดหวังว่า Busted! จะเป็นรายการเพื่อความบันเทิงที่ดูแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก คอยหัวเราะไปกับความผิดพลาดและการกลั่นแกล้งไปมาระหว่างสมาชิกในรายการแบบ Running Man อาจจะต้องผิดหวังเล็กน้อย เพราะพูดตามตรงว่าความสนุกในส่วนนั้นลดลงไปเยอะพอสมควร

 

แต่ถ้าใครอยากเห็นมุมเข้มๆ ของ ยูแจซอก ในร่าง ‘ยูมส์ บอนด์’ มุมใช้ความคิดของ ‘เจ้ายีราฟ’ อีกวางซู มาดนิ่งๆ แต่ฉลาดรอบคอบของ อันแจอุค หรือมุมหล่อๆ ของโอเซฮุน ที่มาร่วมทีมรายการวาไรตี้แบบจริงจังเป็นครั้งแรก แต่ก็ทำได้ดีในแบบ ‘น้อยแต่มาก’ คือพูดไม่ต้องเยอะ แต่พอมีบทแต่ละทีนี่หล่อและเท่แทบกลบรุ่นพี่คนอื่นๆ ได้หมดเลย

 

 

ความท้าทายครั้งใหญ่ของ ‘เอ็มซีแห่งชาติ’ ยูแจซอก

“ตลอดชีวิตหลายสิบปีในวงการบันเทิง ผมผ่านรายการวาไรตี้มาแล้วแทบทุกรูปแบบ แต่ยังไม่เคยมีรายการไหนทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและแปลกใหม่ได้เท่ากับ Busted! มาก่อน เพราะถึงจะเป็นรายการวาไรตี้เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีรายการไหนที่ใช้การไขคดี สิ่งลึกลับ การฆาตกรรม มารวมไว้ในรายการวาไรตี้แบบซีเรียสจริงๆ แบบนี้มาก่อน อย่างตอน Running Man ถึงแม้จะมีเรื่องแบบนั้นอยู่บ้าง แต่ก็เป็นองค์ประกอบเพิ่มเติมเพื่อความสนุกสนาน แต่ใน Busted! การไขคดีคือใจความหลักที่สำคัญที่สุดของรายการ

 

“อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากก็คือ Busted! เป็นรายการที่เน้นการใช้สมองเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราเป็นสายใช้ร่างกายมากกว่ามาโดยตลอด (หัวเราะ) การไขปริศนาหลายๆ อย่างเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความคิดอย่างมาก และเชื่อว่าไม่ใช่แค่พวกเราที่อยู่ในรายการ แต่ทุกคนที่ได้ดูรายการก็จะช่วยกันคิดไปพร้อมๆ กับพวกเราได้ด้วย”

 

 

การโดนหลอกแบบจังๆ ของรุ่นใหญ่อย่างอันแจอุค

“หลายคนถามผมว่าทำไมถึงรับเล่นรายการนี้ ซึ่งเหตุหลักๆ ไม่มีอะไรเลย เพราะแค่เห็นชื่อของโปรดิวเซอร์หลักจาก Running Man ก็ทำให้ผมตัดสินใจไม่ยากแล้ว เพราะเชื่อมือว่ารายการอะไรก็ตามที่พวกเขาสร้างต้องออกมาสนุกแน่นอน

 

“ต้องบอกก่อนว่าพวกเราทุกคนจะได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับรายการน้อยมาก เพราะเป็นรายการที่ไม่มีสคริปต์อะไรเลย นักแสดงทุกคนจะได้รู้ว่าจะถ่ายอะไรในแต่ละวันก็เมื่อไปถึงกองถ่ายแล้วเท่านั้น แล้วตอนที่ทีมงานติดต่อให้มาเล่นรายการนี้ ก็บอกว่าเป็นรายการสบายๆ ไม่มีอะไรมาก แค่วิ่งไปวิ่งมานิดหน่อย เน้นความสนุกสนานมากกว่า แต่พอมาถ่ายทำจริงๆ ปรากฏว่าต้องวิ่งกันกระเจิงตั้งแต่ตอนแรก (หัวเราะ) แถมยังมีปริศนาที่ต้องแก้ มีความลับที่ต้องสืบอีกเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรในรายการนี้ที่ได้มาง่ายๆ แม้แต่อย่างเดียว แต่ในความยากแลกมาด้วยความสนุก และประสบการณ์ในการถ่ายทำที่ดีมากๆ ครั้งหนึ่งเลย”

 

 

คิมจองมินกับความหวังในซีซันใหม่ที่ต้องขึ้นอยู่กับคนดูทุกคน

“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในรายการสนุกและเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผมมากๆ ดีจนอยากให้ทุกคนได้มารับรู้ประสบการณ์นี้ด้วยกันบน Netflix ซึ่งในใจของผมอยากให้รายการแบบนี้อยู่ไปนานๆ หลายซีซัน แต่ด้วยความที่รูปแบบรายการใหม่มาก และอยู่ในแพลตฟอร์มที่เราไม่คุ้นเคย เพราะฉะนั้นความหวังเดียวที่จะทำให้สิ่งที่ผมคิดเกิดขึ้นจริงๆ ได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนดูว่าถูกใจกับสิ่งที่พวกเราทำมากแค่ไหน แต่ถ้าคิดจากประสบการณ์ของผมและเพื่อนๆ ที่ตั้งใจในรายการนี้มากๆ ก็เชื่อว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังนะครับ”

 

 

พื้นที่ของปาร์คมินยองที่มาเพื่อเป็นตัวเอง ไม่ได้มาเพื่อแทนใคร

“หลายๆ คนคิดว่าฉันต้องกดดันตัวเองมากๆ เพราะต้องมาอยู่ในรายการ Busted! ที่มาจากทีมผู้สร้างรายการ Running Man ที่ทำไว้ดีมาก และแฟนๆ ก็คงคาดหวังที่จะได้เห็นอะไรแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วฉันไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นอยู่ในหัวเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะสิ่งเดียวที่ฉันได้รับมอบหมายในรายการนี้คือการแสดงตัวตนออกมาให้มากที่สุด แต่ละคนมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน เพราะนั่นคือความน่าสนใจในการเป็นมนุษย์ สิ่งที่ฉันเป็นได้เพียงหนึ่งเดียวคือการเป็นปาร์คมินยองในแบบที่ตัวเองเป็น เพราะฉะนั้นถ้าใครคาดหวังจะเห็นฉันเป็นตัวแทนของใคร ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ถ้าใครอยากเห็นตัวตนจริงๆ ของฉันล่ะก็ ฉันแสดงให้คุณดูเอง”

 

 

โอเซฮุน กับความกดดันในฐานะสมาชิกทีมวาไรตี้เต็มตัวครั้งแรก

“ก่อนเริ่มถ่ายทำผมค่อนข้างกังวลมาก เพราะนี่คือรายการวาไรตี้รายการแรกที่ผมได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกทีมแบบจริงๆ ไม่ใช่แขกรับเชิญ ก็จะมีความเครียดอยู่ว่าจะวางตัวในรายการอย่างไรถึงจะดีที่สุด แต่ก็ได้พี่ๆ ทีมงานทุกคนคอยให้กำลังใจ โดยเฉพาะพี่ยูแจซอกที่ให้คำแนะนำผมตลอดเวลาว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก ให้เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดก็พอแล้ว แต่อย่างที่พี่อันแจอุคบอกว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ในรายการนี้ ซึ่งมันเป็นแบบนั้นจริงๆ เลยครับ (หัวเราะ) แต่ผมก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะแสดงความสามารถและตัวตนออกมาให้ได้มากที่สุด”

 

 

คิมเซจองกับเคมีที่เข้ากันของนักแสดงทั้ง 7 คน

“สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกดีในการถ่ายทำรายการนี้คือ การที่นักแสดงและทีมงานทุกคนทำงานด้วยกันได้อย่างราบรื่นและลงตัวมากๆ ทุกคนสนิทกันเหมือนรู้จักและร่วมงานกันมานาน ทั้งๆ ที่แต่ละคนก็มีคาแรกเตอร์และลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันทั้งหมด เมื่อถ่ายทำไปเรื่อยๆ ฉันเลยได้เรียนรู้จากการทำงานเพิ่มอีกสิ่งหนึ่งว่า ที่จริงแล้วเคมีที่ลงตัวไม่ได้เกิดจากคาแรกเตอร์ของแต่ละคนที่เข้ากันได้พอดี แต่เคมีที่เข้ากันเกิดจากความเข้าใจ ความสนิทสนม ความตั้งใจร่วมกันที่เราทุ่มเทให้กับงานใดงานหนึ่งมากกว่า”

 

 

อีกวางซูที่ตลกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตำแหน่งตากล้อง

“มีความทรงจำหลายอย่างที่เกิดขึ้นในรายการ Busted! เยอะมากที่ผมอยากเล่าให้ทุกคนฟัง แต่ผมไม่สามารถพูดได้ตอนนี้เพราะเดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์เนื้อหาทำให้ไม่สนุก เลยอยากให้ทุกคนได้มาดูด้วยตาตัวเองมากกว่า แต่สิ่งที่ผมบอกได้คือ ผมก็ยังเป็นอีกวางซูคนเดิม ที่ยังตลกและเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ถ้าใครได้ดูในรายการคงเห็นว่าผมจะมีกระเป๋าที่มีแขนยื่นออกมาติดตัวตลอดเวลาวิ่งไปไหนมานั่น นั่นไม่ใช่แค่พร็อพที่เอาไว้สร้างความแตกต่าง หรือทำให้ดูตลกๆ อย่างเดียวนะครับ เพราะนั่นคือกระเป๋าที่ติดกล้องโกโปรเอาไว้ด้านบน นั่นเท่ากับว่านอกจากมุมมองของตากล้องที่คอยตามผมแล้ว ผมจะเป็นคนที่คอยบันทึกภาพที่เกิดขึ้นในรายการผ่านกล้องที่ติดอยู่บนตัวผมด้วย เพราะฉะนั้นหลายๆ ฉากที่คุณได้เห็นในรายการส่วนหนึ่งคือภาพที่เกิดจากตากล้องที่ชื่ออีกวางซูคนนี้เอง”