สื่อนอกรายงานข่าวไทย-ซาอุ ฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตเต็มรูปแบบ เตรียมตั้งเอกอัครราชทูต-ฟื้นเที่ยวบินตรง

หลายสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าวการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตเต็มรูปแบบระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย ภายหลัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปเยือนกรุงริยาด และเข้าเฝ้าเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย เมื่อวานนี้ (25 มกราคม)

โดยสำนักข่าว Reuters รายงานว่า ซาอุและไทยเห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูตระหว่างกันอีกครั้ง ภายหลังการพบปะระดับสูงครั้งแรกของทั้งสองประเทศ ในรอบกว่า 30 ปี นับตั้งแต่เกิดคดีโจรกรรมเครื่องเพชรจากพระราชวังในซาอุ ซึ่งนำไปสู่การประกาศลดระดับความสัมพันธ์โดยรัฐบาลซาอุ

ขณะที่มกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด และ พล.อ. ประยุทธ์ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมภายหลังการหารือ เห็นพ้องให้มีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตระหว่างสองประเทศในอนาคตอันใกล้ พร้อมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งด้านการค้าและเศรษฐกิจ

ซึ่งนอกจากนี้ สายการบิน Saudi Arabian Airlines ยังประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ว่า จะเริ่มกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงจากซาอุมายังไทย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้

Reuters ยังรายงานเนื้อหาแถลงการณ์ที่ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ “แสดงความเสียใจอย่างจริงใจต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในไทยระหว่างปี 1980-1990” และกล่าวว่ารัฐบาลไทยพร้อมจะหยิบยกคดีขึ้นมาทบทวนอีกครั้ง หากพบหลักฐานใหม่ที่เกี่ยวข้อง

ด้านสำนักข่าว Arabian Business พาดหัวข่าวการฟื้นฟูสัมพันธ์เต็มรูปแบบระหว่างสองประเทศ ภายหลังเกิดความขัดแย้งจากกรณีเพชรบลูไดมอนด์ น้ำหนัก 50 กะรัต ที่ถูกแรงงานไทยซึ่งทำงานในพระราชวังของหนึ่งในเจ้าชายซาอุ ขโมยหายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับเครื่องเพชรและอัญมณีอื่นๆ รวมมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

โดยรายงานยังได้หยิบยกคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทั้งคดีสังหาร 3 นักการทูตซาอุ และคดีการหายสาบสูญของนักธุรกิจซาอุ ที่เชื่อว่ากำลังพยายามตามหาเพชรที่หายไป ซึ่งคาดว่าถูกอุ้มฆ่า แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ต้องหาถูกจับกุม

นอกจากนี้รายงานยังระบุถ้อยแถลงของ พล.อ. ประยุทธ์ที่ยืนยันว่า ไทยได้พยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายคดี และพร้อมจะทบทวนหากมีหลักฐานใหม่ปรากฏขึ้น ตลอดจนข้อความยืนยันว่า ไทยจะปฏิบัติตามคำมั่น ในการให้ความปลอดภัยที่เหมาะสม แก่เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย

ขณะที่ซาอุและไทยจะทำงานร่วมกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า โดยมองหาการลงทุนร่วมกันและโอกาสอื่นๆ ซึ่งขอบเขตความร่วมมือทวิภาคีของทั้งสองประเทศ มีทั้งด้านพลังงานหมุนเวียน สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และความปลอดภัยทางไซเบอร์

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ Arab News สื่อภาษาอังกฤษของซาอุรายงานว่า ซาอุและไทยได้เปิดหน้าใหม่ของความสัมพันธ์ จากการเยือนของ พล.อ. ประยุทธ์เมื่อวานนี้

ซึ่งในการพูดคุยกับมกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความกระตือรือร้นของสองประเทศ ในการกระชับความสัมพันธ์แห่งมิตรภาพ และเปิดหน้าใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างกัน

รายงานข่าวยังระบุถึงแถลงการณ์ร่วม ที่เน้นย้ำเจตนารมณ์ของความร่วมมือ และการตัดสินใจร่วมกันเพื่อฟื้นฟูมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ และประชาชนของทั้งสองฝ่าย และเห็นพ้องกันในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต

นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ยังได้แสดงความยินดีกับซาอุดีอาระเบียที่ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสุดยอด G20 และการตัดสินใจในเชิงบวกที่เกิดขึ้นจากการประชุม ซึ่งมกุฎราชกุมารโมฮัมหมัดตรัสว่า พระองค์มั่นใจว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทางเศรษฐกิจหลายวาระของไทยในปีนี้ จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล

ภาพ: Photo by Royal Court of Saudi Arabia/Handout/Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง: