วันนี้ (10 สิงหาคม) ธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย ไมเคิล ซิมบาลิสต้า ที่ปรึกษา-ภูมิภาค ลุ่มน้ำโขง สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ และ โคดี้ ต่ง เลขานุการฝ่ายกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย แถลงผลการจับกุมตรวจยึดยาเสพติดเตรียมลักลอบส่งออกทางเรือและทางอากาศ มูลค่า 98.29 ล้านบาท จำนวน 4 คดี
เป็นการจับกุมขณะลักลอบส่งออกทางเรือ 2 คดี คือ ตรวจยึดเฮโรอีนซุกซ่อนในมอเตอร์เครื่องบดเนื้อสองเครื่อง น้ำหนัก 118 กิโลกรัม มูลค่า 35.52 ล้านบาท ขณะลักลอบส่งออกทางท่าเรือกรุงเทพ ระบุปลายทางประเทศไต้หวัน
อีกคดีเป็นการตรวจยึดเฮโรอีน น้ำหนัก 20.25 กิโลกรัม มูลค่า 60.75 ล้านบาท ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อชาวเขา ขณะลักลอบส่งออกทางท่าเรือกรุงเทพ ระบุปลายทางประเทศออสเตรเลีย
และจับกุมการลักลอบส่งออกยาเสพติดทางอากาศ 2 คดี คือ ตรวจยึดเฮโรอีนน้ำหนัก 320 กรัม มูลค่า 960,000 บาท ซุกซ่อนในผนังด้านข้างของกล่องพัสดุ สำแดงเป็นสินค้าประเภทเครื่องครัว ขณะลักลอบส่งออกทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุปลายทางประเทศออสเตรเลีย
อีกคดีเป็นการตรวจยึดไอซ์น้ำหนัก 440 กรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซุกซ่อนในปิ่นโต ขณะลักลอบส่งออกทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุปลายทางประเทศออสเตรเลีย
ธีรัชย์เปิดเผยว่า กรมศุลกากรยังคงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปราบปรามยาเสพติด จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดในทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถิติการจับกุมของกรมศุลกากร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 9 สิงหาคม 2567 มีการจับกุมตรวจยึดยาเสพติดทั้งหมด 123 คดี รวมมูลค่ากว่า 970 ล้านบาทด้วยกัน