‘อินเตอร์ ไมอามี’ ความฝันครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่าของ ‘เดวิด เบ็คแฮม’

7 ปี หรือ 2,216 วัน หลังจากที่เดวิด เบ็คแฮม ตัดสินใจยุติเส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่สวยงามเหมือนดังความฝันลง อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษได้เริ่มต้นความฝันครั้งใหม่แทบจะทันที

ความฝันของจอมปั่นโค้งไม่ใช่การเป็นโค้ชหรือผู้จัดการทีมที่ลงกำกับเกมอยู่ข้างสนาม ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ด้วยเกมกลยุทธ์ที่มาจากมันสมองอันปราดเปรื่อง เพราะมันยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก

เบ็คแฮมอยากเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล! และในวันนี้ ‘อินเตอร์ ไมอามี’ ทีมฟุตบอลในความฝันของเขาที่ใช้เวลาในการก่อร่างสร้างตัวมาอย่างยาวนานกำลังจะได้ลงสนามเป็นครั้งแรกแล้ว

แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่มีอะไรที่ง่ายเลย และบางทีเราน่าจะย้อนกลับไปดูจุดกำเนิดของสโมสรฟุตบอลในเมืองชายหาดที่เป็นปลายทางที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝันถึงดูสักครั้ง

บรรยาย: เดวิด เบ็คแฮม และฮอร์เก มาซ หนึ่งในกลุ่มเจ้าของร่วมสโมสรอินเตอร์ ไมอามี

กำเนิดเบ็คแฮม ยูไนเต็ด

ปกติแล้วการก่อตั้งทีมกีฬาในสหรัฐอเมริกาเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ต้องผ่านเงื่อนไขต่างๆ มากมายกว่าจะจัดตั้งได้ โดยเฉพาะในทีมกีฬาขนาดใหญ่ที่เรียกว่าแฟรนไชส์ (Franchise) อะไรที่ว่ายากก็ยิ่งยากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

แต่เพราะเขาคือเดวิด เบ็คแฮม ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของโลกจากยุค 90 ทะลุยุคมิลเลนเนียล นักฟุตบอลที่ถูกคาดหวังว่าจะเป็นคนที่พลิกชะตาของเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS) ทำให้หนึ่งในเงื่อนไขที่ถูกบรรจุไว้คือการที่ดาวดังจากเมืองผู้ดีจะสามารถจัดตั้งทีมฟุตบอลเพื่อเล่นใน MLS ได้

เบ็คแฮม ในวัย 31 ปียอมรับเงื่อนไขดังกล่าว เขาตกลงจะย้ายจากสโมสรระดับสูงสุดของโลกอย่างเรอัล มาดริด เพื่อมาใช้ช่วงเวลาบั้นปลายของการเล่นฟุตบอลในสหรัฐอเมริกากับแอลเอ กาแล็คซี (แม้ว่าจะแอบหนีกลับไปยุโรปบ้างกับเอซี มิลาน และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็ตาม)

เมื่อถึงคราวตัดสินใจที่จะยุติเส้นทางอาชีพนักเตะลง เบ็คแฮมจึงขอใช้เงื่อนไขพิเศษดังกล่าว ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือในเงื่อนไขนั้นเขาสามารถซื้อแฟรนไชส์ได้ในราคา 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากเทียบเป็นเรตปัจจุบันแล้วจะมีค่าสูงถึง 325 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในสเตปต่อไปคือการหาว่าเขาอยากจะตั้งทีมฟุตบอลที่ไหน? ซึ่งสำหรับเบ็คแฮมแล้ว เขาไม่มีที่อื่นในใจนอกจากไมอามี เมืองดังที่ไม่มีทีมฟุตบอลหรือ ‘ซอกเกอร์ทีม’ มาตั้งแต่ปี 2001 หลังจากที่ไมอามี ฟิวชัน ยุติทีม

การแถลงข่าวครั้งแรกของเขาเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2014 เป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก และสร้างความหวังให้แก่ชาวไมอามี

“นี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับตัวผมเอง ครอบครัวของผม เพื่อนๆ และคนรักของผม นี่คือสิ่งที่เราอยากจะนำมันมาสู่เมืองไมอามี”

ขณะที่ ดอน การ์เบอร์ ประธานผู้จัด MLS ในขณะนั้นกล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยความตื่นเต้นว่า “นี่เป็นครั้งแรกในยุคสมัยใหม่ที่อดีตนักกีฬาจะได้มาอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าของสโมสร ในฐานะผู้เล่นและทูตของ MLS เขาทำให้เกิดผลกระทบในทางบวกกับลีกของเรามาก เขาช่วยทำให้นักเตะผู้ยิ่งใหญ่อย่าง เธียร์รี อองรี ย้ายมาอยู่กับ MLS”

แต่ชีวิตมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น

ภาพ: @InterMiamiCF / Twitter

First #InterMiamiCF road trip.

Off to Los Angeles! 🌴🛫 pic.twitter.com/IfQgCeYgjU

— Inter Miami CF (@InterMiamiCF) February 28, 2020

สารพันปัญหาท้าทายซูเปอร์สตาร์

ในความเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับไอคอนของโลก เป็นเรื่องปกติที่คนอย่างเบ็คแฮมจะพบว่าทุกอย่างเหมือนจะง่ายไปหมดในชีวิตไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ตาม

แต่ไม่ใช่สำหรับการตั้งทีมฟุตบอลในไมอามี

มหากาพย์ของปัญหารุมเร้าเขาตลอดตั้งแต่เรื่องของการหาที่ตั้งของสนาม การวางแผน และยังต้องอดทนรอคอยอย่างยาวนานกว่าที่จะได้รับการอนุมัติจาก MLS

มันยากจนทำให้เขารู้จักคำว่าท้อ เพียงแต่เบ็คแฮมไม่เคยคิดจะถอย

“ภรรยาของผมพูดถึงเรื่องความหัวดื้อของผม และผมก็เห็นด้วยกับเธอในเรื่องนี้” เบ็คแฮมกล่าว “ตลอดช่วงระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาผมเกือบจะถอดใจหลายครั้ง ย้ายไปเมืองอื่น หรือทำอย่างอื่น แต่ผมรู้อยู่ลึกๆ ว่าผมกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง

“ความขยันหมั่นเพียรคือสิ่งที่ผมสอนลูกๆ เสมอเวลาพูดถึงเรื่องของการทำงานหนัก และมันคือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความขยันหมั่นเพียร ความดื้อรั้น และความกระหายที่จะชนะให้ได้ เพราะรู้ว่านี่คือการทำในสิ่งที่ถูกต้อง”

ดังนั้นแม้ว่าขั้นตอนของการหาพื้นที่ในการก่อสร้างสนามใหม่ ซึ่งเขาต้องเจอกับความผิดหวังมากมาย เจออุปสรรคนานาในการยื่นเรื่องขอสร้างสนาม การหาทุนในการสร้างสนามถึงขั้นเคยระดมทุนส่วนตัวเพื่อใช้ในการก่อสร้าง แต่ไม่ว่ามันจะยากขนาดไหน เขาก็ต่อสู้จนสามารถพบกับชัยชนะในที่สุด

“มันมีหลายครั้งที่เราท้อและคุยกันว่า ‘มันคงจะไม่เกิดขึ้นแล้ว มันยากเกินไป มันมีอุปสรรคมากเกินไปในเส้นทางของเรา’ แต่ผมไม่ยอมแพ้” เบ็คแฮม ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของเจ้าของสโมสรร่วมกับ ฮอร์เก และโฮเซ มาส เจ้าพ่อวงการก่อสร้าง, มาร์เซโล เคลาร์ มหาเศรษฐีชาวโบลิเวีย และ มาซาโยชิ ซัน นักธุรกิจลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น กล่าวในขณะนั้น

ทีมฟุตบอลของเบ็คแฮม จะมี ‘บ้าน’ ของตัวเองที่ชื่อสนามฟรีดอม พาร์ก (Freedom Park) ที่มีความจุ 25,000 ที่นั่ง แต่บ้านนั้นจะสร้างเสร็จในปี 2022 ระหว่างนี้พวกเขาจะเล่นที่สนามล็อกฮาร์ท สเตเดียม ในฟอร์ตลอเดอร์เดล ซึ่งอยู่ห่างจากไมอามี 30 ไมล์ไปก่อน

ขณะที่ชื่อของสโมสร ‘คลับ อินเตอร์นาซิอองนาล เดอ ฟุตบอล ไมอามี’ หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘อินเตอร์ ไมอามี’ ก็ยังเป็นปัญหา เพราะถูกทีมอินเตอร์ มิลาน ฟ้องร้องเรื่องชื่อ แต่ระหว่างที่ยังไม่มีการตัดสินพวกเขาก็ใช้ชื่อนี้ไปพลางๆ

โดยเกมนัดแรกอย่างเป็นทางการจะเป็นการไปเยือนลอสแอนเจลิส เอฟซี ในวันที่ 1 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น หรือ 05.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย

และจากนั้นพวกเขาจะไปเยือนดีซี ยูไนเต็ด ก่อนจะกลับมาลงเล่นเกมในบ้านนัดแรกโดยมีแขกพิเศษคือแอลเอ กาแล็คซี ทีมเก่าของเบ็คแฮมเองในวันที่ 14 มีนาคม

ภาพ: InterMiamiCF

เมสซี, โรนัลโด, คาวานี ในไมอามี?

อินเตอร์ ไมอามี ปัจจุบันมีทีมที่พร้อมสำหรับการแข่งขันแล้ว มีนักเตะ 29 คนภายใต้การคุมทีมของโค้ชชาวอาร์เจนไตน์ ดีเอโก อลอนโซ แต่ในฐานะทีมเป็นทีมของซูเปอร์สตาร์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าใครๆ ก็คาดหวังจะเห็นนักเตะนามอุโฆษในสโมสรที่มีชุดสีหวานเย็นในอนาคต

ก่อนนี้อินเตอร์ ไมอามี มีข่าวกับเอดินสัน คาวานี กองหน้าจอมเก๋าทีมชาติอุรุกวัยที่กำลังจะหมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต่ล่าสุดมีการเชื่อมโยงกับ 2 สุดยอดตำนานตลอดกาลของโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโด

“เรามีความเชื่อมั่นในทีมที่เรามีอยู่ เราพอใจในนักเตะเหล่านี้ แต่เราก็มีการพูดคุยกันว่าหากมีโอกาสจะดึงนักเตะระดับบิ๊กเนมจากยุโรปได้เราก็พร้อมจะทำ

“ทุกทีมในโลกต่างต้องการเมสซีและโรนัลโดอยู่ในทีมทั้งนั้น แต่เรามีการพูดถึงการที่เราอยากจะเป็นทีมที่แตกต่างจากทีมอื่น ซึ่งผมมั่นใจว่าเจ้าของสโมสรคนอื่นก็จะพูดในแบบเดียวกัน”

อย่างไรก็ดีสิ่งที่เบ็คแฮม ในฐานะคนที่เป็นเหมือน ‘หน้าตา’ ของสโมสร (คนที่บริหารงานจริงๆ คือ โฮเซ มาส) อยากเห็นมากกว่า คือการที่จะมีผู้เล่นดาวรุ่งหน้าใหม่ขึ้นมาประดับวงการ

อินเตอร์ ไมอามี ที่กลายเป็นแหล่งปั้นดาราใหม่ และมีดาราเก่ามาร่วมวงด้วย เป็นที่รักของชาวไมอามี ซึ่งจำนวนมากมีเชื้อสายละตินที่มีใจรักและภักดีในเกมฟุตบอลอยู่แล้ว

มันคือภาพในฝันของเบ็คแฮมที่เขาหวังจะเห็นมาโดยตลอด และเขาจะได้พบภาพแห่งความจริงกำลังจะปรากฏในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแล้ว

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

FYI

ตราสโมสรของอินเตอร์ ไมอามี ดูคล้ายนกฟลามิงโก แต่จริงๆ แล้วคือนกเฮรอนสีฟ้า (Great Blue Heron)
สนามฟรีดอม พาร์ก ใช้ทุนการก่อสร้างถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนอกจากสนามฟุตบอลยังจะมีพื้นที่สีเขียว, เทก ฮับ, ร้านอาหาร และร้านค้ามากมาย
อินเตอร์ ไมอามี เป็นสโมสรลำดับที่ 25 ใน MLS โดยจะประเดิมฤดูกาลแรกพร้อมกับทีมแนชวิลล์ เอสซี ซึ่งเป็นสโมสรลำดับที่ 26 และคาดว่าจะมีการขยายลีกไปจนถึง 32 ทีมในอนาคต
ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ 25 ของ MLS