ย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว Intel ประกาศเปิดตัว Blockscale ASIC สำหรับการขุด Bitcoin อย่างเป็นทางการ แต่ในวันนี้มีการประกาศการสิ้นสุดอายุของชิปซีรีส์ 1,000 ซีรีส์ Blockscale รุ่นแรกโดยไม่ประกาศชิปรุ่นต่อๆ มา
“ในขณะที่เราให้ความสำคัญกับการลงทุนของเราใน IDM 2.0 เราได้ยุติการใช้งานของ Intel Blockscale 1000 Series ASIC ในขณะที่เรายังคงสนับสนุนลูกค้า
Blockscale ของเราต่อไป” Intel กล่าวกับ Tom’s Hardware
IDM 2.0 หมายถึงกลยุทธ์ของ Intel ในการรับจ้างผลิตชิปให้กับลูกค้าภายนอก ในขณะที่ยังคงเพิ่มการผลิตชิปที่มีขนาดเล็กลงและเร็วขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยปี 2019! นักวิเคราะห์คาด ราคา Bitcoin อาจพุ่งแตะ 45,000 ดอลลาร์ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
- ราคา Bitcoin กำลังเคลื่อนไหวคล้ายเหตุการณ์ Halving ในอดีต ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกหรือไม่?
- วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยันมุมมอง Bitcoin เปรียบเสมือนโทเคนการพนันที่ไม่มีมูลค่าพื้นฐานมารองรับ
เมื่อถูกถามว่า Intel มีแผนที่จะออกจากธุรกิจ Bitcoin ASIC ทั้งหมดหรือไม่ กลับได้รับคำตอบว่า “เรายังคงติดตามโอกาสทางการตลาดต่อไป”
การเข้าสู่ตลาดครั้งแรกของ Intel สำหรับชิปขุด Bitcoin เกิดขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากราคาของ Bitcoin ดิ่งลงอย่างหนัก แต่ในขณะที่ Intel จะออกจากตลาดนี้ ราคาของ Bitcoin กลับอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยมีราคา 30,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี
เวเทิล ลูนด์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก K33 Research มองว่า รูปแบบราคาของ Bitcoin ในตอนนี้กำลังเคลื่อนไหวเหมือนกับปี 2019 ทำให้ราคาของเหรียญดังกล่าวอาจพุ่งแตะ 45,000 ดอลลาร์ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
โดย Bitcoin ถือได้ว่าเป็นเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตามตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยราคาปรับตัวขึ้นราว 80% นับตั้งแต่ต้นปี เอาชนะสินทรัพย์เสี่ยงในการเงินระบบดั้งเดิม อย่างเช่น ดัชนีหุ้น Nasdaq ที่เพิ่มขึ้น 16% ไปอย่างขาดลอย
ลูกค้าของ Intel มีเวลาจนถึงเดือนตุลาคม 2023 ในการสั่งซื้อชิปใหม่ และการจัดส่งจะสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2024 ในขณะเดียวกัน Intel ได้ลบหน้า Landing Page และหน้าผลิตภัณฑ์เกือบทั้งหมดสำหรับชิป Blockscale ออกจากเว็บไซต์
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Intel เกิดขึ้นในจังหวะที่ยักษ์เทคกำลังลดต้นทุน โดยมีการขายธุรกิจเซิร์ฟเวอร์, ปิดโมเด็ม 5G, ยุติการผลิต Optane Memory, ทิ้งธุรกิจโดรน และขายธุรกิจเก็บข้อมูล SSD ให้กับ SK Hynix
ไม่ชัดเจนว่า Intel จะยังคงลดขนาดธุรกิจต่อไปหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ชัดเจนว่า Intel ได้มุ่งไปโฟกัสธุรกิจหลักเพื่อฝ่าฟันสภาวะตลาดที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ รวมถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
อ้างอิง:
