มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก คอนเฟิร์ม! Instagram จะเพิ่ม NFT เป็นฟีเจอร์ใหม่ในแอปเร็วๆ นี้

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Meta บริษัทแม่ของ Instagram ยืนยันว่าทาง Instagram จะเพิ่ม Non-Fungible Token (NFT) เป็นฟีเจอร์ใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ข่าวลือว่า Instagram แอปพลิเคชันแชร์รูปภาพและวิดีโอยอดฮิตจะเข้าสู่วงการ NFT นั้นมีมานานแล้ว ก่อนที่ Meta จะเผยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ว่าบริษัทกำลังวางแผนที่จะนำ NFT มาใช้บนรูปโปรไฟล์ Instagram และ Facebook

ฟีเจอร์ NFT ในแอป Instagram มาแน่นอน

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้ประกาศในการประชุม SXSW เมื่อวันอังคาร (15 มีนาคม) ที่ผ่านมาว่า อีกไม่นาน ผู้ใช้แอปจะสามารถสร้างอวตารในรูปแบบ NFT ได้ ซึ่งพวกเขากำลังทำงานเพื่อให้สิ่งนี้เป็นจริง

ก่อนหน้านี้บริษัทคู่แข่งอย่าง Twitter ได้มีการนำคริปโตเคอร์เรนซีและ NFT ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายทิปเป็นบิทคอยน์ หรือการรองรับรูปโปรไฟล์ NFT เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถทดแทนหรือปลอมแปลงได้ ปัจจุบันได้รับความนิยมในของสะสมดิจิทัล ภาพวาด ภาพถ่ายต่างๆ และดนตรี

อย่างไรก็ตาม ซักเคอร์เบิร์กยังไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดและช่วงเวลาที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ NFT นี้ แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ความพยายามของ Meta ในการเข้าสู่อุตสาหกรรมคริปโต

ที่ผ่านมาบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่เคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมคริปโตหลายครั้ง นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019 บริษัทพยายามเปิดตัวเหรียญ Libra ซึ่งถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Diem ในภายหลัง แต่โครงการถูกตอบโต้ด้านกฎระเบียบอย่างรุนแรงจนต้องยกเลิกไป สุดท้ายโครงการถูกขายให้กับ Silvergate Capital

หลังจากนั้น Facebook ได้ประกาศรีแบรนด์บริษัทเป็น Meta ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และเข้าสู่ Metaverse ซึ่งเขาเผยว่า การระบาดของโควิดทำให้ผู้คนโต้ตอบในโลกออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นโลกเสมือนจึงเป็นโอกาสสำคัญของ Meta การประกาศครั้งนี้ทำให้ Metaverse ได้รับความสนใจอย่างมาก และเหรียญหลายตัวในตลาดที่เกี่ยวข้องกับกระแสปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ออกมาน่าผิดหวังอย่างมาก เนื่องจากผู้ใช้ Facebook น้อยลง และบริษัทยังใช้เงินไปกับการพัฒนาจำนวนมหาศาล ซึ่งยังไม่ได้เกิดผลกำไร สิ่งนี้ทำให้นักลงทุนเสียความเชื่อมั่นในบริษัท และหุ้น Meta ก็ปรับตัวลงมากกว่า 20% เลยทีเดียว แต่การประกาศฟีเจอร์ NFT บน Instagram ทำให้หุ้น Meta ปรับตัวขึ้นมา 3% เมื่อวานนี้ (16 มีนาคม) อยู่ที่ประมาณ 200 ดอลลาร์ต่อหุ้น

เป็นที่น่าจับตาดูว่า Meta จะเผชิญกับความท้าทายต่อไปอย่างไร ทั้งปัญหาด้านกฎระเบียบ พฤติกรรมผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งผู้ใช้งานหันไปหา Reels ที่อยู่ใน Instagram มากกว่า รวมถึงคู่แข่งอย่าง TikTok และ YouTube ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้น นอกจากนี้ปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวของ Facebook ยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากผู้คนจะหันไปหาแพลตฟอร์มที่มีการกระจายอำนาจ (Decentralized) มากขึ้นในอนาคต

อ้างอิง: