หากเอ่ยถึงแบรนด์เครื่องสำอางที่ชื่อ Inglot สำหรับคนไทยอาจจะยังเป็นแบรนด์แปลกหน้า แต่ที่ประเทศโปแลนด์ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดของแบรนด์นี้ บอกเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะได้ชื่อว่ามีสีสันของเครื่องสำอางมากที่สุดในโลกจากทั้งหมดกว่า 1,500 รายการ แถมยังไม่ใช่แบรนด์น้องใหม่ เพราะอายุกว่า 35 ปีแล้ว โดยมีตัวเลขการขยายสาขามากถึง 750 แห่ง ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องสำอางใน 80 ประเทศทั่วโลก ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ และที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือ Inglot เลือกที่จะขยายสาขาในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้เองเราจึงขอลิสต์เหตุผลเด็ดๆ ที่คนไทยควรทำความรู้จัก Inglot ให้มากขึ้น

 

ทำความรู้จักแบรนด์ Inglot

Inglot เกิดขึ้นโดยฝีมือของชายผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจยาและเคมีภัณฑ์ที่ชื่อ วอยเธค เองกล็อธ (Wojtek Inglot) ในปี 1983 เขาได้เปิดบริษัท Inglot Cosmetics ขึ้นมา สินค้าความงามที่ผลิตในตอนแรกมีเพียงยาทาเล็บเท่านั้น ต่อมาก็เริ่มผลิตอายแชโดว์และลิปสติกตามมาเป็นลำดับ แม้จะเริ่มต้นด้วยการมีสินค้าเพียงไม่กี่ประเภท แต่แบรนด์นี้ก็ได้รับความนิยมอย่างสูงในโปแลนด์ และเริ่มขยายสาขาไปยังต่างประเทศ เริ่มจากแคนาดา รวมถึงประเทศในคาบสมุทรเปอร์เซีย เช่น นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปัจจุบันแบรนด์นี้ยังคงขยายสาขาไปยังตลาดในประเทศต่างๆ กว่า 750 สาขาใน 80 ประเทศทั่วโลก ส่วนประเทศไทยเป็นประเทศล่าสุดที่ Inglot เลือกมาเปิดเพื่อบุกตลาดเอเชียเป็นที่แรก

 

มีสีสันให้เลือกมากที่สุด

หากมีโอกาสได้ไปเดินเลือกซื้อเครื่องสำอางในช็อปที่โปแลนด์อาจตาลายจนเลือกไม่ถูก เพราะจากผลิตภัณฑ์กว่า 1,500 รายการนั้นได้รวบรวมเฉดสีเอาไว้ให้เลือกเยอะมาก ทั้งรองพื้น ลิปสติก อายแชโดว์ ไฮไลต์ บลัชออน ฯลฯ เมื่อ Inglot มาเปิดสาขาในไทย ความอลังการงานสร้างเรื่องโทนสีที่มีให้เลือกสรรก็ไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆ แค่สีอายแชโดว์อย่างเดียวก็มีตั้งแต่เฉดสีอ่อนไปจนถึงเข้ม แถมโทนสีน้ำตาลก็ยังแบ่งออกเป็นหลากหลายเฉดจนเลือกไม่ถูก เรื่องโทนสีของแบรนด์จึงเป็นจุดเด่นที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงหลายเชื้อชาติและหลากโทนสีผิว  

 

เป็นแบรนด์ที่อยู่เบื้องหลังละครบรอดเวย์ในนิวยอร์ก

ในโลกของละครบรอดเวย์ในนครนิวยอร์กนั้น นี่คือแบรนด์เครื่องสำอางที่สร้างสรรค์ลุคให้กับเหล่านักแสดงละครบรอดเวย์มาโดยตลอด นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมในหมู่ของช่างแต่งหน้าชั้นนำในวงการละครและวงการแฟชั่นโชว์ของเหล่าดีไซเนอร์ระดับเอลิสต์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Kenzo, Michael Costello, Francesco Scognamiglio และ Badgley Mischka

 

เจนนิเฟอร์ โลเปซ ไอคอนระดับโลก ยังมาร่วมออกแบบเครื่องสำอางกับ Inglot

นอกจากเจนนิเฟอร์ โลเปซ จะเป็นพรีเซนเตอร์ของ Inglot อยู่แล้ว เธอยังตอบตกลงร่วมออกแบบคอลเล็กชันเครื่องสำอางในแบบของเธอเอง และนี่ไม่ใช่การร่วมงานกันแค่ชิ้นสองชิ้นเก๋ๆ แต่เครื่องสำอางที่โลเปซออกแบบนั้นมีมากถึง 70 ชิ้น ซึ่งกว่าจะสำเร็จออกมาเป็นรูปร่างให้ได้ช้อปกัน เธอและแบรนด์ใช้เวลาพัฒนาคอลเล็กชันนี้ยาวนานร่วม 3 ปี ซึ่งการรอคอยนี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากแฟนคลับ ส่งผลให้ลิปสติกสีนู้ดที่เป็นสีซิกเนเจอร์ของโลเปซขึ้นป้ายขายเกลี้ยงในเวลาเพียง 3 วัน!

 

เด่นอย่างไร
ทุกคนที่เป็นลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงคอนเซปต์ที่เน้นอิสระในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำในแบบของตัวเองได้จากเครื่องสำอางถึง 1,500 รายการ ทำให้ถูกใจว่ามีสีของตัวเองอย่างแน่นอน เช่น เลือกอายแชโดว์ บลัชออน ไฮไลต์ หรือเฉดดิ้งเสร็จแล้วอยากนำมารวมกันในพาเลตต์เดียว ก็สามารถนำมาจัดเซตใส่พาเลตต์ได้หลากหลายขนาด ทำให้รู้สึกได้ถึงความพิเศษว่าเครื่องสำอางเหล่านี้จัดมาเพื่อตัวเราอย่างแท้จริง คอนเซปต์ต่อมาคือ Friendly ซึ่งสังเกตได้จากราคาว่าไม่แรงจนไม่สบายกระเป๋า ทำให้ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ อีกทั้งพาเลตต์ยังออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly) เพราะนำตลับมาใช้ใหม่ได้ และสุดท้ายคือ Quality ซึ่งเครื่องสำอางทุกชิ้นมีพิกเมนต์ที่สดชัด ติดทน ผลิตจากโรงงานที่ทันสมัย และมีการพัฒนาวิจัยและมีทีมรีเสิร์ชที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี

 

 

ไอเท็มเด่นดังของ Inglot

อย่างแรกที่ต้องรีบแนะนำให้คนไทยรู้จัก เพราะเป็นไอเท็มดาวเด่นและมีชื่อเสียงอย่างมากคือ

 

1. Duraline ผลิตภัณฑ์ที่ได้ฉายาว่าเป็นไอเท็มที่เสกเครื่องสำอางแบบฝุ่นให้เป็นแบบครีมได้อย่างง่ายดาย ลักษณะจะเป็นเจลเหลวเนื้อใสๆ เมื่อใช้ผสมกับเครื่องสำอางชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแป้งหรือเนื้อฝุ่นจะเปลี่ยนเป็นเนื้อลิควิดแบบกันน้ำทันที ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น สีติดทนกับผิวมากขึ้น แห้งไว ไม่ซึมหรือเลอะ วิธีใช้คือตักเนื้อเครื่องสำอางแบบฝุ่นหรือแป้งลงบนฝ่ามือ หยด Duraline ลงไป จากนั้นผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วแต่งหน้าได้เลย ส่วนใหญ่จะฮิตใช้กับอายแชโดว์เนื้อฝุ่นหรือกลิตเตอร์ ทำให้การแต่งตาง่ายและสวยขึ้น (ราคา 550 บาท)

 

2. YSM Cream Foundation รองพื้นสำหรับผิวธรรมดา ผิวผสม และผิวมัน ถูกออกแบบมาครบและตอบโจทย์ ในไทยนำเข้ามา 12 เฉดสี มั่นใจว่าครอบคลุมทุกโทนสีผิว ลักษณะเป็นครีมรองพื้นเนื้อเนียน จุดเด่นคือคุมความมันบนใบหน้าได้ดี อำพรางรูขุมขนได้เนียน (ราคา 850 บาท)

 

3. HD Lip Tint Matte ลิปสติกหลายร้อยเฉดสีของ Inglot อาจทำให้เริ่มต้นไม่ถูกว่าจะเลือกแบบไหน แต่ถ้าต้องการความสดชัด แนะนำลิปสติกเนื้อลิควิด พิกเมนต์ชัด เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์การแต่งหน้า (ราคา 1,100 บาท)

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์