สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่แถบชายฝั่งใกล้ภูเขาไฟกรากะตัวบนเกาะชวาและสุมาตราให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะการระเบิดอย่างต่อเนื่องของภูเขาไฟอาจทำให้เกิดสึนามิอีกระลอก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากสึนามิเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 ธ.ค.) เพิ่มขึ้นเป็น 280 คน และบาดเจ็บกว่า 1,000 คน
“สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยา และธรณีฟิสิกส์ มีคำแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ ในบริเวณชายหาดและอยู่ห่างจากชายฝั่งระยะหนึ่ง” ซูโตโป ปูร์โว หัวหน้าสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวต่อสื่อมวลชน
ภูเขาไฟกรากะตัวปะทุใหญ่อีกครั้งเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) พ่นเขม่าควันและเถ้าถ่านปกคลุมเต็มท้องฟ้า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาเตือนว่าการปะทุของภูเขาไฟอาจทำให้ดินใต้ทะเลถล่มซ้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดสึนามิตามมาอีกระลอก
อินโดนีเซียตั้งอยู่ในวงแหวนแห่งไฟกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ปัจจุบันมีภูเขาไฟที่ยังไม่สงบจำนวน 127 ลูก ขณะที่ อานัก กรากะตัว ตั้งอยู่ในช่องแคบซุนดราระหว่างเกาะชวาและสุมาตรา เป็นเกาะใหม่ที่โผล่พ้นทะเลเมื่อราวปี 1928 หลังเกิดการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟกรากะตัวเมื่อปี 1883 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 36,000 คน
ริชาร์ด ทิว นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธในอังกฤษ แสดงความเห็นว่าแม้สึนามิจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็อันตรายมาก เพราะพัดพาดินตะกอนและเศษซากต่างๆ เข้าถล่มชุมชนที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่ง หากไม่มีสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าจะทำให้ประชาชนไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นจึงมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
นอกจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บแล้วยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน ขณะที่ปฏิบัติการช่วยเหลือและค้นหาผู้รอดชีวิตก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถนนหลายสายในพื้นที่ประสบภัยถูกตัดขาดเพราะมีน้ำท่วมขังและสิ่งกีดขวาง
ด้านประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้แสดงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ พร้อมขอให้ประชาชนอดทนเฝ้ารอให้วิกฤตผ่านพ้นไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
