สมรภูมิสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน (Trade War) และภูมิรัฐศาสตร์ ร้อนแรงต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนหลายรายการ เมื่อบวกกับอุปทานจีนที่ล้นตลาด ส่งผลให้จีนหันมองตลาดอาเซียนที่มีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเป็น 0% เพื่อระบายสินค้า
ที่ผ่านมาจึงทำให้สินค้าจากจีนที่ทะลักเข้ามายังเพื่อนบ้านและไทยเอง จนทำให้ปีที่แล้วไทยขาดดุลกับจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเร็วๆ นี้จึงจะเห็นว่ารัฐบาลพยายามออกมาตรการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 7% จากการนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท
ล่าสุดอินโดนีเซียก็ออกมาประกาศว่า มีแผนกำหนดมาตรการทางภาษีสินค้านำเข้า (Safeguard Duties) ในอัตรา 100-200% เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กๆ อย่างธุรกิจ SME
Zulkifli Hasan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียเตรียมกำหนดภาษีสินค้านำเข้า (Safeguard Duties) ในอัตรา 200% สำหรับการนำเข้าสินค้าหลายรายการ ตั้งแต่สินค้ารองเท้าไปจนถึงสินค้าเซรามิกเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยเบื้องต้นจะกำหนดภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่ผลิตจากจีนอยู่ที่ 100-200%
โดยมาตรการเรียกเก็บภาษีนี้จะมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ ซึ่งอาจกระทบต่อการนำเข้าสินค้ารองเท้า เสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องสำอาง และเซรามิก
“หากเราปล่อยให้มีการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก จะกระทบผู้ประกอบการรายย่อย รายเล็ก และขนาดกลาง ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจรายเล็กๆ ล่มสลายได้” Zulkifli กล่าว ทั้งนี้ ปัจจัยหลักๆ มาจากสงครามการค้า (Trade War) ทำให้เกิดอุปทานล้นตลาดในจีน และการปฏิเสธสินค้าจากจีนของกลุ่มประเทศแถบตะวันตก ส่งผลให้จีนต้องระบายสินค้าออกไปยังตลาดอื่นๆ มายังอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- กางเกงช้างและปรากฏการณ์สินค้าจีนทะลักไทย กำลังบอกอะไร? เรื่องเก่าเล่าใหม่ที่อาจไม่เหมือนเดิม
- ใครได้-ใครเสีย! รีด VAT สินค้านำเข้าราคาต่ำ สกัดสินค้าจีนทะลักได้แค่ไหน
- ไขคำตอบ ทำไมเสน่ห์และความสามารถในการแข่งขันไทยค่อยๆ เลือนหาย ‘กับดักเศรษฐกิจไทย (บางเรื่อง)’ กำลังกลายเป็นแผลอักเสบเรื้อรัง
“ดังนั้นหากสหรัฐฯ สามารถกำหนดอัตราภาษี 200% สินค้าเซรามิกหรือเสื้อผ้านำเข้าได้ เราก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม ธุรกิจภาค SME ในประเทศจะต้องอยู่รอด” Zulkifli กล่าว
ด้าน Budi Santoso เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า คณะกรรมการปกป้องการค้าอินโดนีเซียอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อกำหนดอัตราภาษีสินค้าต่างๆ
ขณะที่สำนักงานสถิติระบุว่า สินค้านำเข้ามายังอินโดนีเซียส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับมาจากจีน เวียดนาม และบังกลาเทศ ซึ่งปีนี้มูลค่าการนำเข้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก โดยเดือนมกราคมมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 12.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น 23.98 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม
สำหรับอินโดนีเซีย ถือเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออกมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้านำเข้ามากกว่า 3,000 รายการ ตั้งแต่วัตถุดิบอาหารไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเคมีภัณฑ์
อ้างอิง:
- https://en.antaranews.com/news/317223/indonesia-to-impose-up-to-200-pct-import-tariffs-on-chinese-goods?utm_source=antaranews&utm_medium=desktop&utm_campaign=top_news
- https://asia.nikkei.com/Economy/Trade/Indonesia-to-levy-100-200-duties-on-clothing-ceramics-minister-says
- https://english.news.cn/20240625/54c11bc234ff474da3467e2db168d564/c.html