อินเดียทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือรบ เพื่อแสดงศักยภาพการโจมตีทางไกลอย่างแม่นยำและยืนยันความพร้อมทางการทหาร ท่ามกลางความสัมพันธ์กับปากีสถานที่ตึงเครียดมากยิ่งขึ้นหลังเกิดเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวที่แคชเมียร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน โดยอินเดียเชื่อว่าปากีสถานอาจเกี่ยวพันกับกลุ่มผู้ลงมือก่อเหตุ
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ให้คำมั่นว่าจะมีการตอบโต้ที่รุนแรง และได้ประสานกับบรรดาผู้นำโลกเพื่อสร้างแนวร่วมสนับสนุนจุดยืนของอินเดีย โดยระบุว่า ความโกรธแค้นในหมู่ชาวอินเดียกำลังเดือดพล่าน พร้อมขู่จะไล่ล่าผู้ก่อการร้ายจนถึงที่สุด
ขณะที่ทางด้านปากีสถาน ฮานิฟ อับบาซี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรถไฟ ออกมาเตือนว่า อาวุธนิวเคลียร์กว่า 130 ลูกของปากีสถานนั้น มีไว้สำหรับอินเดียเท่านั้น ท่าทีแข็งกร้าวนี้สร้างความกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างสองประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองอาจบานปลายได้ ซึ่งทั้งสองชาติต่างมียุทธศาสตร์การทหารที่ต่างกัน โดยปากีสถานเน้นใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็ก เพื่อป้องกันภัยแบบฉับพลัน (Full Spectrum Deterrence) ขณะที่อินเดียมียุทธศาสตร์ ‘Cold Start’ เพื่อโจมตีแบบรวดเร็วด้วยกำลังดั้งเดิม ก่อนสถานการณ์จะลุกลามสู่ระดับนิวเคลียร์
ไมเคิล คูเกลแมน นักวิเคราะห์ด้านนโยบายต่างประเทศประเมินว่า อินเดียมีแนวโน้มตอบโต้ในระดับจำกัด เพื่อทำลายกลุ่มก่อการร้ายและฟื้นฟูการป้องปราม มากกว่าการเปิดศึกสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการคำนวณผิดพลาดยังมีอยู่สูง และสถานการณ์อาจบานปลายได้ตลอดเวลา เพราะทั้งสองฝ่ายต่างไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอ
นอกจากการเตรียมพร้อมด้านทหาร อินเดียยังดำเนินมาตรการทางการทูตร่วมด้วย โดยระงับสนธิสัญญาแม่น้ำสินธุ (Indus Waters Treaty) ขับไล่นักการทูต และยกเลิกวีซ่าชาวปากีสถาน ฝ่ายปากีสถานก็ตอบโต้ด้วยการขับไล่นักการทูตอินเดียและปิดน่านฟ้าเช่นกัน ขณะที่ภายในแคชเมียร์ อินเดียได้เปิดปฏิบัติการปราบปรามครั้งใหญ่ ทั้งการตรวจค้น จับกุมผู้ต้องสงสัย และรื้อถอนบ้านที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธผู้ซึ่งลงมือก่อเหตุ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชน
อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ความตึงเครียดยิ่งรุนแรงคือ กรณีอินเดียระบายน้ำจากเขื่อนอูริ (Uri Dam) ส่งผลให้น้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ปากีสถาน-แคชเมียร์ ซึ่งปากีสถานเตือนว่า การกระทำใดๆ ที่กระทบต่อแหล่งน้ำถือเป็น ‘การกระทำแห่งสงคราม’ การเผชิญหน้าบริเวณเส้นควบคุม (Line of Control) ก็เกิดขึ้นติดต่อกันหลายวัน และทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันและกันว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน
แม้ว่า ชาห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน จะส่งสัญญาณว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจสอบจากต่างประเทศและยืนยันว่าปากีสถานต้องการสันติภาพ แต่ก็ยังย้ำว่าปัญหาแคชเมียร์เป็น ‘เส้นเลือดใหญ่’ ของปากีสถาน ซึ่งเป็นถ้อยคำที่สะท้อนจุดยืนดั้งเดิมที่ไม่ยอมประนีประนอม ทำให้ความพยายามลดความตึงเครียดยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค
ภาพ: SpokespersonNavy via X / Handout via Reuters
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/world/2025/apr/27/india-test-fires-missiles-tensions-rise-pakistan-kashmir-attack
- https://timesofindia.indiatimes.com/india/combat-ready-indian-navy-test-fires-anti-ship-missile-in-arabian-sea/articleshow/120662502.cms
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-04-27/india-test-fires-missiles-as-tension-with-pakistan-escalates