Xiaomi บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำสัญชาติจีน ได้ส่งคำร้องถึงรัฐบาลอินเดียที่เดินหน้ายกระดับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดกับบริษัทสัญชาติจีน ส่งผลให้บรรดาซัพพลายเออร์ผู้ผลิตส่วนประกอบสมาร์ทโฟนมีความระมัดระวังในการลงทุนจัดตั้งโรงงานหรือดำเนินกิจการใดๆ ในอินเดียมากยิ่งขึ้น โดยข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าววงในรายหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยกับ Channel News Asia
ขณะเดียวกันทาง Xiaomi ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในอินเดียมากถึง 18% ได้ระบุผ่านจดหมายที่ส่งตรงถึงรัฐบาลอินเดียเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ทางการพิจารณาเสนอนโยบายที่เพิ่มแรงจูงใจในการผลิตและลดภาษีนำเข้าสำหรับชิ้นส่วนประกอบสมาร์ทโฟน โดยท่าทีร้อนรนของจีนแสดงให้เห็นถึงความท้าทายกับบริษัทแดนมังกรที่ต้องอาศัยประเทศอินเดียเป็นสถานที่การทำงาน
สาเหตุที่ทางการอินเดียยกระดับความเข้มข้นการตรวจสอบธุรกิจจีนนั้นมีต้นตอมาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดจากการปะทะกันบริเวณชายแดนเมื่อปี 2020 ซึ่งทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 ราย ในขณะที่ทางจีน 4 ราย ซึ่งการปะทะที่เกิดขึ้นนำมาสู่รอยร้าวความสัมพันธ์ที่สะเทือนแผนการลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน และทำให้เกิดการประท้วงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากรัฐบาลกรุงปักกิ่ง
Xiaomi เป็นหนึ่งในบริษัทจีนไม่กี่รายที่เลือกจะพูดออกสาธารณะเกี่ยวกับความยากลำบากของการดำเนินงานที่ประเทศอินเดียในฐานะบริษัทจีน เพื่อเร่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะธุรกิจสมาร์ทโฟนของ Xiaomi มีส่วนประกอบสำคัญหลายอย่างจำเป็นต้องอาศัยการนำเข้าจากซัพพลายเออร์จีน
Muralikrishnan B ประธาน Xiaomi ในอินเดีย กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลอินเดียจำเป็นต้องกำหนดนโยบายเพื่อสร้างความมั่นใจ ซึ่งจะช่วยสร้างแรงสนับสนุนให้บรรดาซัพพลายเออร์จีนหันมาตั้งโรงงานในอินเดียเพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้ซัพพลายเออร์ส่วนประกอบสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติจีน มีความกังวลในการจัดตั้งโรงงานที่อินเดีย อันเป็นผลมาจากนโยบายที่บริษัทต่างชาติ
นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา อีกหนึ่งบริษัทสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนอย่าง vivo Communication Technology ก็โดนทางการอินเดียกล่าวหาว่าพวกเขาละเมิดกฎวีซ่า รวมถึงกล่าวหาว่าบริษัทยักยอกเงินจำนวน 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากอินเดีย
ยิ่งไปกว่านั้น ทางการอินเดียยังมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ Xiaomi มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากข้อกล่าวหาการโอนเงินอย่างผิดกฎหมายไปยังหน่วยงานต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง vivo และ Xiamoni ต่างยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น
นอกเหนือจากการตรวจสอบด้านกฎระเบียบอย่างเข้มงวดกับ Xiaomi และ vivo แล้ว อินเดียยังได้แบนแอปสัญชาติจีนมากกว่า 300 แอปนับตั้งแต่ปี 2020 รวมถึง TikTok ของ ByteDance และระงับโครงการที่บริษัทจีนวางแผนไว้ เช่น ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน BYD และ Great Wall Motor
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวของ Channel News Asia ยังรายงานว่า ผู้บริหารของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์จีนจำนวนมากต้องเจอกับปัญหาในการขอวีซ่าเพื่อเข้าสู่อินเดียที่ยากเป็นพิเศษ หนำซ้ำพวกเขายังต้องเผชิญกับการอนุมัติการลงทุนที่ล่าช้า เพราะมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวดของทางการอินเดีย
เพื่อจูงใจให้รัฐบาลอินเดียพิจารณาลดความเข้มงวด Xiaomi ได้อธิบายถึงข้อดีของการลดภาษีนำเข้าสินค้าว่าจะมีส่วนช่วย “เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิตของอินเดีย” แต่การที่จะดึงซัพพลายเออร์จากจีนมาตั้งโรงงานการผลิตในอินเดียจำเป็นจะต้องมีนโยบายที่สร้างแรงจูงใจที่ใหญ่ข้อเสนอที่มีในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา Rajesh Kumar Singh ข้าราชการระดับสูงด้านนโยบายอุตสาหกรรมของอินเดีย ส่งสัญญาณชัดเจนว่า อินเดียจะสามารถผ่อนคลายความเข้มข้นการตรวจสอบแก่บริษัทจีนได้ หากชายแดนของทั้งสองประเทศกลับมาอยู่ในสภาวะสงบและเป็นเช่นนั้นต่อไป
ภาพ: David Ramos / Getty image
อ้างอิง: