ความคืบหน้ากรณีตำรวจกองบังคับการกองปราบปราม เข้าควบคุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการ และข้าราชการปัจจุบัน ในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. จำนวน 10 ราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้ตำรวจกองบังคับการกองปราบปราม ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำที่กองปราบปรามแล้วจำนวน 7 คน ประกอบไปด้วย นายพนม ศรศิลป์, นายแก้ว ชิดตะขบ, นายบุญเลิศ โสภา, นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี, นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร, นายชยพล พงษ์สีดา และนายณรงค์เดช ชัยเนตร
มีรายงานล่าสุดว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 ราย คือ นายเจษฎา วงศ์เมฆ และนายวสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ ซึ่งอยู่ระหว่างนำตัวมาที่กองปราบฯ เพื่อสอบปากคำ โดยในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวได้ทั้งหมดไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฝากขังต่อไป
ด้านพลตำรวจตรี ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ป. ทำสำนวนคดีและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พิจารณาไต่สวนชี้มูลความผิด ซึ่งทาง ป.ป.ช. ได้ส่งเรื่องกลับมาให้กองปราบปรามดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ
เบื้องต้นมีผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน ที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด 10 แห่ง โดยวัด 10 แห่ง มีความเกี่ยวข้องกับการจับกุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ดำเนินการจับกุมไปก่อนหน้านี้ ข้อหาส่วนใหญ่ดำเนินคดีตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบและข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด ซึ่งการจับกุมดังกล่าว แสดงให้สังคมเห็นว่า คดีนี้ไม่ได้จับกุมเฉพาะพระที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่เป็นต้นทางของการทุจริตด้วย
อย่างไรก็ตามที่มีกระแสข่าวว่ามี 1 ในผู้ต้องหาเดินทางไปต่างประเทศนั้น ผู้บังคับการกองปราบปราม ตอบสั้นๆ เพียงว่า ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
