×

ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’

03.11.2025
  • LOADING...
ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’

HIGHLIGHTS

  • THE STANDARD WEALTH เยือนต้นกำเนิดไร่ชามัทฉะ 1 ใน 3 แหล่งผลิตชาเกรดพรีเมียมที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น อายุกว่า 150 ปี จากเมืองชิซุโอกะ สู่เมนู มัทฉะ ‘คาเฟ่อินทนิล’
  • คาเฟ่ ‘อินทนิล’ รุก Non-oil ลงสนามตลาดชาเขียวพรีเมียม นำเข้าชา 5 ตัน เสิร์ฟเมนูมัทฉะเสริมพอร์ตเครื่องดื่ม เอาใจคนรักสุขภาพ
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยตลาดชาเขียวไทยแข่งเดือด คาดการณ์ปีนี้ 2025 ผงมัทฉะจะมียอดนำเข้าแซงใบชาเขียว

THE STANDARD WEALTH บินลัดฟ้าเยือนเมือง ชิซูโอกะ (Shizuoka) ประเทศญี่ปุ่น เมืองเล็กๆ แสนอบอุ่น ที่ใช้เวลาเดินทางเพียงราว 2 ชั่วโมงจากกรุงโตเกียว ก็สามารถสัมผัสเสน่ห์ของธรรมชาติและวิถีชนบทญี่ปุ่น

 

แต่เมื่อพูดถึง ชิซูโอกะ นั้นก็ถือเป็นเมืองได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ดินแดนแห่งภูเขาไฟฟูจิ’ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุบนเกาะฮอนชู รายล้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงาม และมีที่ราบสูงนิฮอนไดระ และชายฝั่งมิโฮะ มัตสึบาระ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

 

นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว ชิซูโอกะยังขึ้นชื่อเรื่อง ‘ชาเขียว’ หรือ เรียวกุฉะ (緑茶) อันเลื่องชื่อ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแหล่งปลูกและผลิต ‘ไร่ชาที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น’ ที่สืบทอดภูมิปัญญาและคุณภาพมานานหลายศตวรรษ

 

ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’ 1

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ไร่ชาแห่งนี้มีชื่อว่า ‘ยามามะ มัตสึดะเอ็น’ (Yamama Masudaen Co., Ltd) )’ เป็น 1 ใน 3 ไร่ชาเขียวที่ใหญ่ที่สุด และเป็นไร่ชาเก่าแก่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในปี 1870 หรือ ในสมัยเมจิที่ 3 เรียกได้ว่า มีอายุเก่าแก่ถึง 155 ปี ทีเดียว
ต้นกำเนิดไร่ชาในยุคบุกเบิกญี่ปุ่น สู่ไร่ชาจักรพรรดิ

 

สึโยมิ เล่าให้ฟังว่า ไร่ชาในบริเวณโอมะเอซากิ ถือเป็นแปลง Koizumihara ที่เริ่มการเพาะปลูกโดย Maruo Bunroku เมื่อประมาณศตวรรษที่ 19 ซึ่งปัจจุบันได้บริหารจัดการและปลูกโดยไร่ชายามามะ มัตสึดะ เอ็น สืบต่อกันมา หลายชั่วอายุคน

 

กระทั่งได้รับรางวัลอันสูงสุด ‘ถ้วยจักรพรรดิ (天皇杯 – Emperor’s Cup)’ ในปี 2015 โดยสึโยมิ ถือเป็นทายาทรุ่นที่ 5 สืบทอดการบริหาร นั่นเอง

 

ไร่แห่งนี้เปิดให้รับชมและเรียนรู้การเพาะปลูกชา มีโครงการ ‘chatto’ (เล่น เรียนรู้ ปลูก) การปลูกชาแบบรุ่นสู่รุ่น ที่เปิดพื้นที่กว่า 1.1 เฮกตาร์ (เทียบเท่าฟุตบอล 1.5 สนาม) เพื่อปลูกชาสายพันธุ์ ‘tsuyuhikari’

 

ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’ 2

 

ที่นี่เปิดให้หนุ่มสาวรุ่นใหม่เรียนรู้ ตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บใบ โดยมีจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น ปลูกชา เดินในไร่ เก็บใบชา ตลอดจนมัทฉะเกรดพิธีการ สร้างประสบการณ์แบบ immersive ที่ไม่เหมือนใคร

 

ปัจจุบันไร่ชาและโรงงานชายามามะ มัตสึดะเอ็น มีกำลังการผลิตมากกว่า 100 ตันต่อปี ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ชาเขียวพรีเมียม ส่งออกไปยัง 30 ประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 1991 หรือราว 34 ปี แล้ว

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาของไร่ยามามะ มัตสึดะเอ็น มีความพรีเมียมจนผู้บริโภคให้การยอมรับ ก็มาจากแนวคิดการ ผลิตชาอย่างยั่งยืน ‘ผสานเกษตรแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่’ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งยังบริหารจัดการน้ำ พร้อมระบบสปริงเกอร์ เพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อการผลิต และในยามแผ่นดินไหว

 

ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’ 3

 

ไร่ชาที่นี่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผสม ไร้สารเคมี มีการวางระบบลมพัดหมุนเวียนตลอดในไร่ชา ด้วยการติดตั้งพัดลมสูงทำมุมกับช่องว่างระหว่างแถวปลูกชา ที่สำคัญคือ ใช้รถเก็บเกี่ยว ไม่ใช้แรงงานคน เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ใบชาได้คุณภาพก็คือรอบการเก็บเกี่ยว ไร่ชาแห่งนี้จะมีรอบเก็บเกี่ยวทั้งหมด 4 ช่วง ได้แก่

 

ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’ 4

 

ช่วงที่ 1: Ichibancha หรือชาใหม่ เมษายน-เดือนพฤษภาคม

 

ช่วงที่ 2: Nibancha เป็นการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 2 ในฤดูร้อน ช่วงประมาณกลางเดือนมิถุนายน-ต้นเดือนกรกฎาคม

 

ช่วงที่ 3: Sanbancha เป็นการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 3 ในฤดูใบไม้ร่วง ช่วงประมาณปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนสิงหาคม ระยะนี้เหมาะสำหรับนำไปทำขนมหรืออาหาร เพราะจะเริ่มมีการเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและมีรสขมยิ่งขึ้น

 

ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’ 5

 

ช่วงที่ 4: Yonbancha เป็นการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 4 ซึ่งพบได้ในบางพื้นที่ ในปลายเดือนกันยายน-ต้นเดือนตุลาคม โดยจะได้ใบชาที่มีคุณภาพสูงมาก และเป็นการเก็บใบชาเพื่อนำไปทำเป็นผงชา หรือที่เรียกกันว่า ‘มัทฉะ’ (Matcha) 抹茶 หรือชาวญี่ปุ่นออกเสียงว่า มัตจะ นั่นเอง

 

ด้วยวิธีคิดในการทำไร่ชายั่งยืนคู่กับวิธีการเก็บเกี่ยวใบชา ที่มีความพิถีพิถันสูงมาก ไร่ชายามามะ มัตสึดะเอ็น เป็นต้นแบบการรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิม จึงได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุด ‘ถ้วยพระจักรพรรดิญี่ปุ่น’ ในที่สุด

 

ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’ 6

 

คาเฟ่ ‘อินทนิล’ ลงสนามมัทฉะ! รุกตลาดชาเขียวพรีเมียม นำเข้า 5 ตัน เสริมพอร์ตเครื่องดื่มสุขภาพ

 

แบรนด์กาแฟ ‘อินทนิล’ ของบางจาก ก็ไม่พลาดที่จะคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียม โดยเลือกใช้ ชาเกรดพิเศษจากไร่ชายามามะ มัตสึดะเอ็น แห่งนี้ มาเป็นส่วนผสมหลักในเมนูเครื่องดื่มให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติแท้จากต้นกำเนิด

 

“ปีนี้เราเห็นถึงกระแสมัทฉะในไทย จึงเตรียมจัดส่งชาเกรดพรีเมียมล็อตแรก ปริมาณ 5 ตัน ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นมายังร้านอินทนิลในไทย โดยเน้นการคัดเฉพาะใบชารุ่นเก็บเกี่ยวในรอบที่ 3-4” ณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด กล่าว

 

ตามรอยไร่ชาจักรพรรดิญี่ปุ่น ‘มัทฉะชิซูโอกะ’ ตำนาน 150 ปี จากยอดชาหลังฟูจิซัง สู่คาเฟ่ ‘อินทนิล’ 7

 

ณิภาภรณ์ บอกว่า เรียกได้ว่า อินทนิลเดินหน้าลงสนามแข่ง เครื่องดื่มชาเขียวพรีเมียมเต็มสูบในปีนี้ เพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z หรือกลุ่มผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพหันมาดื่มมัทฉะกันเยอะ

 

น่าสนใจว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าใน ‘ปีนี้ 2025 ผงมัทฉะจะมียอดนำเข้าแซงใบชาเขียวในไทยอีกด้วย

 

ดังนั้น อินทนิล ตั้งเป้าขยายเมนูเครื่องดื่มชาเขียวพรีเมียม ให้ครอบคลุมทุกสาขาทั่วประเทศภายในปี 2025 ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 200 แก้วต่อวันต่อสาขา จากในปัจจุบันที่ 100 แก้ว (รวมทุกเมนูไม่เฉพาะชาเขียว) พร้อมกับการเพิ่มจำนวนสาขาใหม่เป็น 1,800 สาขา จากปัจจุบันที่มีกว่า 1,100 สาขา

 

“เป้าหมายสำคัญคือยอดขายต้องเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาท เครื่องดื่มมัทฉะจึงเป็นส่วนหนึ่งในแผนเพิ่ม EBITDA ในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) ของบางจาก ให้เติบโตได้ 30% ใน 3 ปี” ณิภาภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising