วันนี้ (6 ตุลาคม) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตัวแทนพนักงานสอบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 48 นาย จากทั้งหมด 112 นาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและรับสินบน โดยยื่นหนังสือผ่านทาง พล.ต.ต. วัชรินทร์ ประสพดี เลขานุการตำรวจแห่งชาติ (สบ.6)
หนึ่งในตัวแทนตำรวจที่มาร้องขอความเป็นธรรมระบุว่า ตนเองมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ส่วนรายละเอียดต่างๆ อยู่ในเอกสาร ไม่ขอเปิดเผยด้วยวาจา โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามหลายครั้ง แต่ก็ได้คำตอบเช่นเดิมว่ารายละเอียดอยู่ในเอกสาร และยังถามกลับผู้สื่อข่าวว่าฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องหรือ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับ
ด้าน พล.ต.ต. วัชรินทร์ เปิดเผยว่า หลังรับหนังสือร้องเรียนจะส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอนเพื่อพิจารณา ส่วนรายละเอียดตนเองก็ยังไม่ทราบ เพราะอยู่ในเอกสาร
จากนั้นกลุ่มพนักงานสอบสวนได้นำเอกสารมาแจกจ่ายให้สื่อมวลชน ซึ่งเนื้อหาในเอกสารระบุว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยศ ‘พล.ต.ต.’ สังกัดนครบาล เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเวฬุวัน จังหวัดขอนแก่น ให้ดำเนินคดีกับพวกตนเองในมาตรา 157 และ 149
แต่พยานหลักฐานที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนดังกล่าวนำไปแจ้งความได้มามิชอบด้วยกฎหมาย และจากนั้นยังสอบสวนกลุ่มผู้ร้องโดยมิชอบ แล้วนำคำให้การของกลุ่มผู้ร้องที่ถูกสอบสวนโดยมิชอบมารวบรวมเป็นพยายหลักฐานใช้ประกอบสำนวนคดี เรื่องดังกล่าวได้มีการร้องเรียนพนักงานสอบสวนต่อ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในขณะนั้น และ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยขณะนี้ที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร. และไม่รายงาน ผบ.ตร. ในขณะนั้นทราบ แต่กลับเอาผลการสอบสวนและคำให้การที่กระทำไปโดยไม่มีอำนาจและเป็นการสอบสวนมิชอบ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนดังกล่าวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ต้องทราบดีว่าคณะพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนแล้ว เนื่องจากคดีถูกโอนไปอยู่ในอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุดแล้ว แต่ยังสอบสวนต่อโดยไม่มีอำนาจและไม่มีอัยการร่วมสอบ
ทั้งนี้ ทางผู้ร้องได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนดังกล่าวในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการแล้วอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาตามอำนาจหน้าที่แล้วเช่นกัน
โดยผู้ร้องระบุในเอกสารด้วยว่า นายตำรวจคนดังกล่าวมีเจตนากลั่นแกล้งไม่เป็นธรรม แอบอ้างคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จูงใจ หลอกลวง และข่มขู่ให้กระทำการหรือให้ถ้อยคำโดยไม่มิชอบ รวมทั้งปกปิดบิดเบือนข้อเท็จจริงให้ได้รับความเสียหาย จึงได้มาร้องทุกข์ในวันนี้