กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยข้อมูลสัดส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศพบว่า สัดส่วนทุนสำรองดังกล่าวในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ปรับตัวร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1995 หรือต่ำสุดในรอบ 25 ปี
รายงานระบุว่า สัดส่วนเงินสำรองในรูปสกุลเงินดอลลาร์ในไตรมาส 4 ลดลงมาอยู่ที่ 59% จาก 60.5% ในไตรมาสที่ 3 ก่อนหน้า อีกทั้งยังนับเป็นการปรับตัวลดลง 3 ไตรมาสติดต่อกัน ขณะที่สัดส่วนทุนสำรองในรูปสกุลเงินดอลลาร์ในปี 1995 อยู่ที่ 58%
อย่างไรก็ตาม เงินสกุลดอลลาร์ยังคงเป็นสกุลเงินยอดนิยมและมีสัดส่วนมากที่สุดในทุนสำรองเงินตราของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก โดย เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสแห่ง OANDA แพลตฟอร์มซื้อขายเงินตราต่างประเทศออนไลน์ กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมของตลาดในปัจจุบัน ทำให้หลายคนมองเห็นความเป็นไปได้ที่สกุลเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงมากกว่าเดิม
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงถึง 4% ก่อนที่จะขยับฟื้นขึ้นมาได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ประมาณ 3.5% นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2018
สำหรับทุนสำรองระหว่างประเทศนี้ เป็นสินทรัพย์ที่บรรดาธนาคารกลางต่างๆ หลายแห่งทั่วโลกถือครองไว้ในรูปสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่มีไว้เพื่อรองรับระดับหนี้สินของประเทศเป็นหลัก และบางครั้งธนาคารกลางก็ใช้เงินสำรองระหว่างประเทศในการสนับสนุนเงินทุนของรัฐบาล
IMF ยังพบอีกว่า ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ลดลง สัดส่วนเงินทุนสำรองต่างประเทศในรูปสกุลเงินยูโรกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ 20.5% มาอยู่ที่ 21.2% ในช่วงไตรมาส 4 ทำสถิติเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 โดยสัดส่วนทุนสำรองต่างประเทศในรูปสกุลเงินยูโรที่อยู่ในระดับสูงสุดตลอดกาลคือในปี 2009 ที่ 28%
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก IMF ยังแสดงให้เห็นว่า ปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 12.246 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 มาอยู่ที่ 12.7 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเก็บอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่ารวม 7 ล้านล้านดอลลาร์
ในส่วนของสกุลเงินเยนมีการขยายตัวเติบโตได้อย่างดีเช่นกัน โดย IMF พบว่า สัดส่วนทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในรูปสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.03% ขณะที่สัดส่วนของสกุลเงินหยวนของจีนเพิ่มขึ้น 2.25% โดย IMF เริ่มตามเก็บบันทึกทางสถิติของเงินหยวนนับตั้งแต่ปี 2017
พิสูจน์อักษร: ชฎานิสภ์ นุ้ยฉิม
อ้างอิง: