กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ระบุ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย น่าจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจรวมกัน 4.9% ในปีนี้ ลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 5.2% ซึ่งสวนทางกับมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกและเอเชียแปซิฟิกที่ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างสดใส
โจนาธาน ออสทรี รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกของ IMF กล่าวว่า IMF ปรับลดการคาดการณ์สำหรับเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ แม้ว่าจะมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลกและเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น
IMF คาดว่า ประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุด 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเติบโตโดยรวม 4.9% ในปี 2564 ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 5.2% เศรษฐกิจทั้ง 5 ประเทศนี้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม
ออสทรีกล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคโควิด-19 และการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งของหลายๆ เมืองใหญ่ ทำให้เศรษฐกิจของบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขยายตัวลดลง
“เรากังวลทั้งมิติของแนวโน้มภาคการท่องเที่ยว ซึ่งหลายประเทศกำลังจะเปิดประเทศอีกครั้ง และมิติของการใช้มาตรการควบคุมโรคระบาด เช่น มาตรการล็อกดาวน์ และมาตรการใหม่อื่นๆ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้เช่นกัน” ออสทรีกล่าว
อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เข้าข่ายประเทศที่ต้องเข้มงวดด้านมาตรการควบคุมโรคระบาดในปีนี้ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นรายวัน การฉีดวัคซีนในประเทศเหล่านี้มีความล่าช้าเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก
สถิติที่รวบรวมโดย Our World in Data พบว่า 3.76% ของคนอินโดนีเซียได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซึ่งต่ำกว่าระดับโลกที่ 5.76% ขณะที่มาเลเซียและฟิลปินส์อยู่ที่ 1.8% และ 0.96% ตามลำดับ
ทั้งนี้ การปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางส่วนเกิดขึ้นจากการที่ IMF ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เพิ่มขึ้นจาก 7.3% เป็น 7.6% ในปีนี้ กองทุนดังกล่าวยังเพิ่มประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 จาก 5.5% เป็น 6% โดยเศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มุมมองต่อเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกสดใสขึ้น
ในบรรดาประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย IMF ได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตสำหรับจีนและอินเดีย โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 8.4% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้าที่มองไว้ 8.1% ในขณะที่อินเดียคาดว่าจะขยายตัว 12.5% เพิ่มขึ้นจากมุมมองก่อนหน้าที่มองไว้ 11.5%
อย่างไรก็ตาม ออสทรียอมรับว่า ยังคงมีความน่ากังวลอย่างมากเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในอินเดีย โดยล่าสุดในสัปดาห์นี้อินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อแซงหน้าบราซิล และกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ เท่านั้น
อ้างอิง:
