องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ประกาศเตือนวานนี้ (26 มีนาคม) ว่าอัตราคนว่างงานทั่วโลกอาจพุ่งสูงทะลุ 25 ล้านคน หากวิกฤตแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ที่เป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
ตัวเลขดังกล่าวเป็นผลจากการประเมินของ ILO เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ้างอิงจากสถานการณ์ที่แตกต่างกัน สำหรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้ว่างงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 5.3 ล้านคน ถึง 24.7 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม อีซังฮอน ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายจ้างงานของ ILO ระบุว่า จำนวนของคนว่างงานชั่วคราวและคนที่ถูกปลดจากงาน รวมถึงจำนวนการขอรับสิทธิประโยชน์ชดเชยการว่างงานทั่วโลกนั้นเพิ่มสูงมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้
“เราพยายามจำแนกคนว่างงานกะทันหันชั่วคราวจำนวนมากเข้ากับรูปแบบที่เราประเมินไว้ ขนาดของความผันผวนนั้นใหญ่กว่าที่คาดคิดไว้มาก ตัวเลขคนว่างงานจะขยายใหญ่กว่านี้มาก และสูงกว่าตัวเลข 25 ล้านคนที่เราประเมินไว้” อีซังฮอนกล่าว
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบกับกรณีวิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2008/9 พบว่า ในช่วงนั้นตัวเลขคนว่างงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 22 ล้านคน
ขณะที่มาตรการเข้มข้นของสหรัฐฯ ในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ธุรกิจต่างๆ ทั่วประเทศต้องหยุดชะงักกะทันหัน ส่งผลให้จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสิทธิประโยชน์ชดเชยการว่างงานนั้นเพิ่มเป็นมากกว่า 3 ล้านคนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วนอินเดียที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลา 21 วัน เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 ก็ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ออกมาเตือนว่าอัตราการว่างงานในอินเดียนั้นอาจพุ่งสูงถึงหลักสิบล้านคน
โดยฝ่ายบริหารทรัพย์สินของสหพันธ์สมาคมการท่องเที่ยวและการบริการในอินเดีย ระบุว่ากลุ่มการค้าของอินเดีย ประเมินตัวเลขว่างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการว่า อาจพุ่งสูงถึง 38 ล้านคน ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคาดว่าจะเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่ตอนนี้สูญเสียรายได้จากผลของมาตรการล็อกดาวน์ หลายคนถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าที่พักและค่าอาหาร และบางคนต้องยอมเดินเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อกลับไปใช้ชีวิตในหมู่บ้านห่างไกล
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: