วันนี้ (29 เมษายน) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สนธิกำลังร่วมกับชุดพญาไท กรมปศุสัตว์ เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุดในย่านตลาดไท จังหวัดปทุมธานี หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายซากสุกรผิดกฎหมาย
ปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งซึ่งมีความจุถึง 40 ตัน พบว่าเป็นแหล่งพักซากสุกรที่ลักลอบนำเข้ามาจากจังหวัดนครปฐมและสมุทรปราการ เพื่อรอการกระจายส่งขายทั่วประเทศ โดยภายในห้องเย็นดังกล่าว พบซากสุกรรวมทั้งสิ้น 9,350 กิโลกรัม
จากการตรวจสอบเอกสารและการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าของสามารถแสดงเอกสารรับรองการเคลื่อนย้ายซากสุกรได้เพียง 4,000 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบว่าซากสุกรในส่วนนี้มีสภาพเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น อีกทั้งเจ้าของไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาที่ชัดเจนได้ ส่วนซากสุกรอีก 1,350 กิโลกรัม ไม่พบเอกสารรับรองใดๆ เลย
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดซากสุกรที่มีปัญหา รวมทั้งสิ้น 5,350 กิโลกรัม (ประกอบด้วยส่วนที่เน่าเสีย 4,000 กิโลกรัม และส่วนที่ไม่มีเอกสาร 1,350 กิโลกรัม) คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท ไว้ตรวจสอบเป็นเวลา 15 วัน
เพื่อให้เจ้าของนำเอกสารที่ถูกต้องมาแสดง หากไม่สามารถนำมาแสดงได้ จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ฐานเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ จังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) การลักลอบนำเข้าและจำหน่ายซากสุกรที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ทราบแหล่งที่มาเช่นนี้ จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรค และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อราคาเนื้อสุกรในท้องตลาด โดยการปราบปรามอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่อาจทำให้ปริมาณเนื้อสุกรนอกระบบลดลง และส่งผลให้ราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นได้
ทาง บก.ปคบ. จึงฝากเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเลือกซื้อเนื้อสุกร ควรเลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือและมีใบรับรองมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย