อิคาโน่ รีเทล ผู้ถือแฟรนไชส์อิเกีย นำเข้าสินค้าและของตกแต่งบ้านสัญชาติสวีเดนสู่ประเทศไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เม็กซิโก และฟิลิปปินส์ รายงานรายได้ในปีงบประมาณ 2567 รวมราว 4 หมื่นล้านบาท
อิคาโน่ รีเทล เป็นหนึ่งในผู้ได้รับสิทธิ์อนุญาตแฟรนไชส์อิเกียจาก 12 รายทั่วโลก ปัจจุบันมีสโตร์รูปแบบ Omni-Channel 14 แห่ง และสโตร์ภายในศูนย์การค้าอีก 5 แห่ง รายงานผลประกอบการที่เติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สำหรับประเทศไทย อิคาโน่ รีเทล เป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจผ่านช่องทาง Omni-Channel หรือการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่หลากหลายช่องทาง พร้อมบริหารจัดการสโตร์อิเกีย 4 แห่ง ได้แก่ อิเกีย บางนา, อิเกีย บางใหญ่, อิเกีย ภูเก็ต และอิเกีย สุขุมวิท ซึ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566
บริษัทประสบความสำเร็จในตลาดประเทศไทยด้วยยอดขายที่โตขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และปิดยอดปีงบประมาณ 2567 ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 ด้วยรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท (ราว 286 ล้านยูโร)
“ธุรกิจทั่วโลกต่างเผชิญปีที่ยากลำบาก อิเกียก็เช่นกัน” คริสเตียน รอยเคียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อิคาโน่ รีเทล กล่าวยอมรับถึงผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น และกระทบการใช้ชีวิตของผู้บริโภค
ในช่วงเวลาที่เงินเฟ้อและค่าครองชีพสูง อิเกีย ประเทศไทย ได้เดินหน้าประกาศลดราคาสินค้าอีกครั้งกว่า 2,400 รายการในปีนี้ โดยมากกว่า 85% เป็นสินค้าจำเป็นหรือสินค้าขายดีในประเทศ ตั้งแต่กล่องเก็บของขนาดเล็กไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว นอกจากนี้ อิเกีย ประเทศไทย ยังได้ลดราคาค่าบริการจัดส่งโดยรถบรรทุก
สินค้าประเภทอุปกรณ์จัดเก็บยังคงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหาวิธีจัดการพื้นที่ในการอยู่อาศัย สินค้าจากคอลเล็กชัน MALM (มาล์ม), PAX (พักซ์) และ BILLY (บิลลี่) ครองยอดขายสูงสุด 3 อันดับแรกตามลำดับ โดยคำนวณจากยอดขายรวมในอิเกียทั้ง 14 สโตร์ของอิคาโน่ รีเทล
เฉพาะอิเกีย ประเทศไทย เพียงประเทศเดียว มีลูกค้าซื้อชั้นหนังสือ BILLY (บิลลี่) ถึง 34,460 ชิ้น เนื่องจากมีความต้องการจัดระเบียบพื้นที่ภายในบ้านและออฟฟิศเป็นจำนวนมาก
ในขณะเดียวกันสินค้าและบริการด้านอาหารยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้บริโภคในทุกๆ ตลาด โดยในปีที่ผ่านมาอิเกียได้ต้อนรับผู้เข้าใช้บริการกว่า 14.5 ล้านครั้งในร้านอาหารอิเกีย บิสโทร และมุมอาหารและขนมสวีเดน ทั้งนี้ยอดขายอาหารรวมลดลง 3% ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากอุปทานอาหารทั่วโลก
สำหรับประเทศไทยนั้น มีตบอลเนื้อ, มีตบอลไก่ และแพลนต์บอล มียอดขาย 27.3 ล้านชิ้น, จานและชามจากซีรีส์ OFTAST (ออฟตาสท์) ขายได้ 737,726 ชิ้น และ 1.36 ล้าน คือจำนวนสมาชิก IKEA Family ประเทศไทย คิดเป็น 59% ของยอดขายในประเทศ