แนวโน้มสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในอเมริกาขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่หยุด จนทำให้ Ingka Group บริษัทแม่ผู้ดูแลแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังอย่าง IKEA ตัดสินใจลงทุนขยายสาขา 17 แห่งในอเมริกา ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของแบรนด์ ด้วยงบมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การลงทุนของ IKEA ในครั้งนี้ อยู่ในแผนงานระยะ 3 ปี โฟกัสไปยังพื้นที่เมืองซานฟรานซิสโก และอาร์ลิงตันในรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ นับตั้งแต่ IKEA เข้ามาทำตลาดในอเมริกาเป็นครั้งแรกในปี 1985 ครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของแบรนด์ในรอบ 40 ปี และคาดว่าการขยายสาขาจะสร้างงานเพิ่มอีก 2,000 ตำแหน่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- IKEA เตรียมปรับราคาสินค้าทั่วโลกขึ้นโดยเฉลี่ย 9% หลังต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งพุ่งทะยานจากปัญหาซัพพลายเชน
- ‘Nitori’ เฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิใจ (ที่กำลังจะเข้าไทย) และเคล็ดเพลงดาบซามูไรที่สู้ได้แม้กระทั่งยักษ์ใหญ่อย่าง IKEA
- เจาะกลเม็ด ‘IKEA’ ในการบุก ‘อินเดีย’ ประเทศที่มีตลาดเฟอร์นิเจอร์ซับซ้อนที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
แน่นอนว่าสวนทางกับผู้เล่นรายใหญ่ที่ได้ทยอยปิดสาขาไปจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่ Bed Bath & Beyond ตามด้วย Walmart และ Best Buy อยู่ระหว่างเตรียมปิดสาขา 20-30 แห่ง พร้อมกับปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเดินหน้าปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ IKEA กลับมองเห็นโอกาสในพื้นที่ใหม่ๆ และเชื่อว่าชื่อเสียงและจุดแข็งของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านที่มีราคาเข้าถึงง่ายจะช่วยผลักดันยอดขายในอเมริกาได้ถึง 5.9 พันล้านดอลลาร์
‘เรามองเห็นโอกาสในตลาดอเมริกา โดยเฉพาะทางตอนใต้ที่ผู้บริโภคมองหาสินค้าราคาย่อมเยาและไม่แพงมาก ซึ่งแบรนด์ IKEA ก็ถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้’ โทลกา ออนดู ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีกของ IKEA กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-3 ปีต่อจากนี้ IKEA มีสโตร์ในอเมริกาทั้งหมด 59 สาขา และ Plan and Order Points จำนวน 11 แห่ง ทั้งนี้ผลประกอบการปี 2022 IKEA สามารถทำรายได้ในอเมริกาได้ถึง 6.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง: