นูกู (ว.) คำแสลงในกลุ่มแฟนคลับเกาหลี หมายความว่า ไม่เป็นที่รู้จัก
ความฝัน (น.) สิ่งที่ประกอบสร้างตัวตน เป็นสิ่งที่ขีดเส้นทาง ปักหมุดจุดหมาย และยังเป็นสิ่งที่กำหนดความสำเร็จและความล้มเหลวของใครหลายๆ คน
หากความฝันบนเส้นทางของเด็กฝึกทุกคนคือการเดบิวต์ ความฝันของศิลปินก็คงเป็นการปรากฏตัวอยู่บนเวทีท่ามกลางแฟนๆ แต่ IDOL: The Coup กลับบอกเล่าเรื่องราวที่ต่างออกไปของวง Cotton Candy วงเกิร์ลกรุ๊ปที่เต็มไปด้วยความสามารถและความฝัน ผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับค่ายเพลงที่เทพวกเธออย่างไม่เป็นท่า และการต่อสู้กับโลกที่โหดร้ายในฐานะ ‘ไอดอลผู้ล้มเหลว’
เป็นเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดที่ศิลปินและแฟนคลับเข้าใจได้อย่างดี ผ่านวันเวลาแห่งความผิดหวัง การถูกทอดทิ้ง คำเรียกขานว่าวงนูกู และการต่อสู้เพื่อชิงอันดับบนชาร์ตเพลงที่แสนโหดร้าย
นอกจากเนื้อหาที่สะเทือนใจแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังดึง 5 ไอดอลสาวที่เคยข้ามผ่านช่วงเวลาอันเจ็บปวดของการไม่เป็นที่รู้จักมาแล้วในชีวิตจริง มารวมตัวกันในบทบาทของสมาชิกวง Cotton Candy
เริ่มจาก อันฮียอน หรือฮานิ หนึ่งในสมาชิกจากวง EXID เจ้าของเพลงดังติดหูอย่าง UP&DOWN (2014) วงเกิร์ลกรุ๊ปที่ไม่มีกิจกรรมวงอีกเลยนับตั้งแต่เธอหมดสัญญากับอดีตต้นสังกัตไปในปี 2019 มารับบท คิมเจนนา หัวหน้าวง Cotton Candy
พร้อมด้วยไอดอลมากความสามารถอย่าง อันซลบิน Laboum ที่มารับบท ฮยอนจี และ เอ็กซี่ WJSN ในบท แอล สองไอดอลสาวที่เดบิวต์ในปี 2016 ยุคเฟื่องฟูของรายการเซอร์ไวเวิล (รายการประกวดไอดอล) ที่ทำให้สปอตไลต์จากสื่อต่างๆ และแฟน K-Pop เองส่องไปไม่ถึงพวกเธอเท่าที่ควร และสมาชิกคนสุดท้ายของวง Cotton Candy ที่ได้นักแสดง ฮันโซอึน มารับบท สเตลล่า นักแสดงที่กำลังไต่เต้าอย่างเต็มที่ในยุคที่คู่แข่งทางการแสดงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
“เป้าหมายของการเป็นศิลปินฝึกหัดทุกคนคือการได้เดบิวต์ แต่การเดบิวต์เป็นแค่จุดเริ่มต้น”
ซงยูจิน อดีตสมาชิกวง N-Train พูดไว้แบบนั้นในตอนเริ่มต้นของอีพีที่ 2 เพราะการเป็นไอดอลนั้นคือการเป็นสินค้าของอุสาหกรรมบันเทิง และแน่นอนว่าถ้าศิลปินคนไหนไม่สามารถสู้กับวงอื่นๆ หรือทำให้ตัวเองเป็นสินค้าชั้นดีของบริษัทได้แล้ว บริษัทก็จะเลิกขายพวกเขา และนั่นหมายความว่าความพยายามในการเดบิวต์ทั้งหมดจะสูญเปล่า
ในทางการตลาด สินค้าที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายไม่ได้สำคัญแค่วัตถุดิบเพียงอย่างเดียว แต่ต้องประกอบไปด้วยการทำบรรจุภัณฑ์ การวางแผนการขาย และการโฆษณาที่ดีด้วย
แต่สิ่งที่วง Cotton Candy ต้องเจอคือการต่อสู้กับค่ายเพลง ในฐานะเจ้าของสินค้าที่ทำเพียงแค่ตีตราพวกเธอแล้วออกขาย ทิ้งพวกเธอไว้บนชั้นวางอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะกล่าวโทษคุณภาพของวัตถุดิบอย่างพวกเธอ แทนที่จะโทษการวางแผนที่ผิดพลาดของตัวเอง
คงเป็นเพราะการโยนความผิดให้คนอื่นมันง่ายกว่ายอมรับไว้เอง สุดท้ายแล้วสาวๆ เหล่านี้จึงต้องยอมรับการถูกทอดทิ้งและแบกรับความล้มเหลวไว้แต่เพียงผู้เดียว แม้ว่าที่จริงแล้วคนที่ล้มเหลวอาจไม่ใช่พวกเธอเลยก็ตาม
“ในยุคที่ผู้คนจำแต่ผู้ชนะ ในยุคเลือดเย็นที่ผู้ชนะกอบโกยหมดทุกอย่าง พวกเราอดทนกับทั้งหมดนั้นด้วยทุกอย่างที่เรามี”
เราผู้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองของระบบทุนนิยม ที่ความฝันของเราผูกติดและขึ้นอยู่กับมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เราไม่ได้ต่างจากวง Cotton Candy ที่มีช่วงวัยเรียนเป็นดั่งศิลปินฝึกหัด และใฝ่ฝันถึงงานรับปริญญาที่เป็นเหมือนการเดบิวต์
เราเดบิวต์สู่โลกความเป็นจริงที่แสนโหดร้าย พบกับความสับสน ความล้มเหลว และความผิดหวัง เราพบทั้งหมดนั้นในฐานะคนที่ไม่เป็นที่ต้องการ คนที่ล้มเหลว ท่ามกลางโลกที่จดจำแต่ผู้ประสบความสำเร็จ และโลกที่นายทุนสามารถกอบโกยได้ทุกอย่าง
ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เริ่ม เราจึงเป็นดั่งวัตถุดิบที่ยังต้องถูกฟูมฟักก่อนบรรจุลงหีบห่อ แต่ระบบทุนนิยมกลับต้องการเพียงสินค้าที่เพียบพร้อมเพื่อเพิ่มเม็ดเงินให้กับองค์กร แต่ไม่คิดจะหล่อหลอมคนคนนั้นขึ้นมาด้วยตัวเอง
เหมือนการไปถึงความฝันต้องใช้สะพานเพื่อข้ามแม่น้ำ แต่ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่มีใครอนุญาตให้สร้างมันอยู่ดี นั่นคือเหตุผลที่ใครหลายคนต้องนิยามตัวเองว่าผู้ล้มเหลวในโลกใบนี้
แต่ตราบใดที่นาฬิกาชีวิตยังไม่หยุดหมุน เราเลือกจะเริ่มต้นใหม่หรือสู้ต่อไปได้เสมอ เหมือนที่วง Cotton Candy เลือกต่อสู้กับความล้มเหลวของตัวเอง ก่อนจะเริ่มต้นใหม่ในเส้นทางที่เปล่งประกายกว่าเดิม
ติดตามชม IDOL: The Coup ได้ทุกวันจันทร์-อังคาร ที่ iQiyi
ชมมิวสิกวิดีโอเพลง White Day ของวง Cotton Candy ได้ที่
ชมตัวอย่างซีรีส์ IDOL: The Coup ได้ทาง
ภาพ: iQiyi และ JTBC
