×

จากฝั่งธนบุรีสู่เวทีโลก ถอดบทเรียนความสำเร็จ ‘สยามพิวรรธน์’ ผู้สร้างโมเดลพลิกเมือง ‘ไอคอนสยาม’ ที่เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจและสร้างความภูมิใจให้ชุมชนในพื้นที่ [ADVERTORIAL]

26.09.2025
  • LOADING...
iconsiam-game-changer-siam-piwat

HIGHLIGHTS

  • สยามพิวรรธน์ ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ยืนหยัดบนเส้นทางกว่า 67 ปี ในฐานะ ‘Game Changer’ ตัวจริง ที่ไม่ได้มุ่งสร้างเพียงศูนย์การค้า แต่สร้าง ‘แพลตฟอร์มแห่งโอกาส’ ที่เชื่อมโยงธุรกิจ ผู้คน ชุมชน และโลกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนให้กับทุกฝ่าย
  • เปิดต้นแบบ ‘ไอคอนสยาม’ โมเดลสร้างเมืองที่ ‘เปลี่ยนเกม’ การพัฒนา (Urban Transformation) โดยไม่ได้เริ่มจากพิมพ์เขียว แต่เริ่มจากการลงพื้นที่พูดคุยกับ 13 ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้หลักคิด Co-Creation and Shared Value เพื่อให้โครงการเติบโตไปพร้อมกับชุมชนและสังคมโดยรอบอย่างแท้จริง
  • สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโครงการ ราคาประเมินที่ดินโดยรอบพุ่งสูงขึ้นจาก 250,000 บาท เป็น 700,000 บาทต่อตารางวา กระตุ้นให้เกิดโครงการอสังหาฯ ตามมากว่า 60 โครงการ ขณะที่ธุรกิจริมแม่น้ำโตขึ้น 40% และ 3,500 ครัวเรือนในชุมชนมีรายได้ที่ดีขึ้นจากการค้าขาย
  • ศักยภาพของไอคอนสยามดึงดูดความเชื่อมั่นจากพันธมิตรระดับโลก โดยแบรนด์ลักชัวรีมากมายนำโดย Hermès, Prada, Loro Piana และ Fendi ทุ่มทุนขยายพื้นที่ครั้งประวัติการณ์ แรงขับเคลื่อนสำคัญคือยอดขายที่เหนือชั้นซึ่งติดอันดับท็อป 5 หรือท็อป 10 ของโลก และคิดเป็น 75% ของรายได้ลักชัวรีแบรนด์ทั้งพอร์ตในประเทศไทย
  • ไอคอนสยามได้ก้าวสู่การเป็น Global Attraction ที่ผู้ประกอบการทั่วโลกต้องศึกษา การันตีด้วยการเป็นโครงการเดียวจากไทยที่ได้เข้ารอบสุดท้ายรางวัล Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years จาก MAPIC Award 2025 ตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่ต้องการพลิกเกมเพื่อ ‘ชนะ’ และนำพาชื่อเสียงของประเทศไทยสู่เวทีโลก

นิยามของคำว่า ‘ความสำเร็จ’ ในโลกธุรกิจอาจแตกต่างกันไป แต่สำหรับสยามพิวรรธน์แล้ว ดูเหมือนว่าความสำเร็จจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างปรากฏการณ์ทางธุรกิจพร้อมกับการเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทเพียงอย่างเดียว หากแต่คือการยึดมั่นในแนวคิดการเป็น ‘Game Changer’ ตัวจริง ที่สามารถพลิกเกมเศรษฐกิจของพื้นที่โดยรอบให้ก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน โดยมี ‘ไอคอนสยาม’ เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของบทพิสูจน์นี้

 

ความสำเร็จนี้เห็นได้จากผลประกอบการอันแข็งแกร่ง แม้ในวันที่เศรษฐกิจโดยรวมเริ่มส่งสัญญาณถดถอย แต่ไอคอนสยามยังคงเติบโตทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง การเติบโตนี้ยังได้ส่งต่อพลังบวกไปยังหลากหลายธุรกิจในพื้นที่ฝั่งธนบุรีและริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเช่นกัน สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงชั่วโมงบินที่ยาวนาน และศักยภาพในการมองเกมธุรกิจอย่างเฉียบคม

 

สยามพิวรรธน์, ไอคอนสยาม

 

‘ผู้พลิกเกม’ ที่ยืนหยัดเหนือทุกวิกฤติ

 

บนเส้นทางกว่า 67 ปี สิ่งที่สะท้อนตัวตนของสยามพิวรรธน์ได้อย่างชัดเจนที่สุดคือ ‘การไม่หยุดนิ่ง’ และ ‘การกล้าที่จะสร้างสิ่งใหม่’ ให้โลกได้เห็น บริษัทไม่ได้มุ่งสร้างเพียงศูนย์การค้า แต่ได้สร้างเวทีระดับโลกในฐานะ ‘แพลตฟอร์มแห่งโอกาส’ ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงธุรกิจ ผู้คน ชุมชน และโลกเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านแนวคิดที่เรียกว่า ‘วิถีสยามพิวรรธน์’

 

สยามพิวรรธน์คือ ‘Game Changer ตัวจริง’ ที่บุกเบิกและยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่โครงการสยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกของประเทศที่ได้วางรากฐานให้วงการค้าปลีก และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้แจ้งเกิดในอุตสาหกรรมแฟชั่น 

ความกล้านี้ได้ถูกต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบ ‘Mixed-Use Complex’ ยุคแรก ผ่านสยามทาวเวอร์ อาคารสำนักงาน และโรงแรม InterContinental ซึ่งดึงดูดการลงทุนของโรงแรมหรูระดับโลกให้กล้าเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

 

ก่อนจะพัฒนาสู่สยามพารากอน โปรเจกต์ระดับโลกที่กลายเป็น ‘แม่เหล็กสำคัญ’ ในการดึงดูดแบรนด์ลักชัวรีมากมาย และผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ‘จุดหมายปลายทางการลงทุนและท่องเที่ยวระดับโลก’ รวมถึงการสร้างและปรับโฉมสยามดิสคัฟเวอรี่สู่การเป็น ‘Hybrid Retail’ ทั้งหมดนี้คือการสะท้อนจิตวิญญาณที่เปลี่ยนโฉมวงการค้าปลีกไทยและยกระดับภาพลักษณ์ประเทศสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง

 

ไอคอนสยาม โมเดลสร้างเมืองที่เริ่มจาก ‘เสียงของผู้คน’

 

ไอคอนสยามได้รับการยอมรับในฐานะ ‘ต้นแบบกระบวนการพัฒนาโครงการที่ครบวงจร’ ที่มีความเหนือกว่าการเป็นเพียงศูนย์การค้า แต่นี่คือการ ‘เปลี่ยนเกม’ พัฒนาเมือง (Urban Transformation) ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างเมืองและอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสมัยใหม่ได้อย่างครบวงจร การยกระดับครั้งนี้ทำให้ทำเลฝั่งธนบุรีมีความน่าดึงดูดและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

 

สยามพิวรรธน์, ไอคอนสยาม

สยามพิวรรธน์, ไอคอนสยาม

 

หัวใจสำคัญของโครงการนี้คือการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง สยามพิวรรธน์ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับ 13 ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้ประกอบการท้องถิ่น และภาคธุรกิจริมน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะถูกสร้างขึ้นจากการมีส่วนร่วมและผลประโยชน์ร่วมกัน (Co-Creation and Shared Value) ของผู้คน ชุมชน คู่ค้า และสังคม 

 

โดยมีเป้าหมายหลักคือการทำให้คนฝั่งธนบุรีภูมิใจในที่อยู่ของตนเอง ด้วยความเชื่อที่ว่าความยิ่งใหญ่ของเมืองต้องสร้างมาจากการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่

 

เมื่อความสำเร็จไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรั้วโครงการ

 

ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ไอคอนสยามเปิดให้บริการ รายได้ของศูนย์การค้าเติบโตเฉลี่ยถึง 24.2% และสามารถสร้างงานได้มากกว่า 400,000 อัตรา ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวโครงการเอง แต่ได้ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรอบอย่างเป็นรูปธรรม ในฐานะ ‘แม่เหล็กการท่องเที่ยวระดับโลก’ โครงการนี้ได้ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศจนได้รับการยกย่องจาก CNN ให้เป็น 1 ใน 3 จุดหมายปลายทางของคืนข้ามปีที่ดีที่สุดในโลก

 

ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ราคาประเมินที่ดินบริเวณไอคอนสยามพุ่งทะยานจาก 250,000 บาทต่อตารางวา เป็น 700,000 บาท และมีแนวโน้มว่าอาจสูงถึงตารางวาละ 1 ล้านบาท พร้อมกันนั้นยังได้กระตุ้นให้เกิดโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ตามมาถึง 60 โครงการ ในพื้นที่เพียง 1 ตารางกิโลเมตรรอบโครงการ ภาคธุรกิจอื่นๆ ก็เติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะธุรกิจบนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เติบโตขึ้น 40% ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวทางน้ำก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

 

สยามพิวรรธน์, ไอคอนสยาม

 

ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้โรงแรมโดยรอบมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาห้องพักเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 50% และมีอัตราการเข้าพักสูงกว่า 85% ขณะเดียวกัน ความสำเร็จนี้ได้แผ่ขยายไปสู่ระดับชุมชนอย่างยั่งยืน ทำให้ 3,500 ครัวเรือน ใน 13 ชุมชนที่อยู่ล้อมรอบ มีรายได้ต่อครัวเรือนดีขึ้นจากการค้าขาย นอกจากนี้ โครงการยังได้เข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการดูแลและพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น การรักษาความสะอาดและขุดลอกคูคลองรอบๆ ทั้ง 7 สาย

 

ศักยภาพที่ดึงดูดการลงทุนระดับโลก

 

ความเชื่อมั่นจากพันธมิตรระดับโลกในศักยภาพอันไม่มีที่สิ้นสุดของไอคอนสยาม ได้สะท้อนผ่านการแสดงเจตจำนงในการร่วมเปิดสโตร์แห่งใหม่หรือขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น สิ่งนี้ตอกย้ำถึงสถานะของโครงการที่ได้พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย ในฐานะศูนย์กลางค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกอย่างแท้จริง

 

ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวไว้ว่า “เพื่อให้ก้าวข้ามขีดจำกัด สยามพิวรรธน์มีแนวคิดที่เรียกว่า Reinvest (ลงทุนซ้ำ) เพื่อ ทำให้ไอคอนสยามเก่งกว่าเดิม การลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ ดีมานด์ (พื้นที่ขาย) มีเข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเฉพาะจากแบรนด์ลักชัวรี ซึ่งเติบโตอย่างมากแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ค่อยดี”

 

ชฎาทิพ จูตระกูล

 

“แรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้แบรนด์เหล่านี้มั่นใจในการลงทุนครั้งประวัติการณ์ คือ ยอดขายที่เหนือชั้น ลักชัวรีแบรนด์ที่จำหน่ายในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ทุกแบรนด์ต่างติดอันดับ ท็อป 5 หรือ ท็อป 10 ของโลก โดยยอดขายลักชัวรีแบรนด์ที่มาจากไอคอนสยามและสยามพารากอนรวมกัน คิดเป็น 75% ของรายได้ทั้งพอร์ตในประเทศไทย”

 

ด้วยเหตุนี้ แผนการขยายพื้นที่ครั้งยิ่งใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 จึงเกิดขึ้น โดยมีแบรนด์กว่า 52 แบรนด์ ทั้งแบรนด์สินค้าลักชัวรีและผู้ประกอบการไทย ทยอยเปิดให้บริการด้วยมูลค่าการลงทุนรวมสูงถึง 1,500 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น Hermès ที่เตรียมปรับโฉมเป็นแฟล็กชิปสองชั้น (Duplex) แห่งแรกของประเทศ เช่นเดียวกับ Prada ที่จะเพิ่มพื้นที่เป็น Duplex แห่งแรกในไทยเช่นกัน 

 

ส่วน Loro Piana จะมาเปิดสาขาเพิ่มโดยมีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย ด้าน Fendi จะเปิดตัว ‘New Concept in Region’ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุดและเป็นที่แรกในเอเชีย พร้อมด้วย Facade ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ขณะที่ Gentle Monster และ Tamburins เตรียมเปิดร้านขนาดใหญ่มากถึงหนึ่งพันตารางเมตรในช่วงเดือนธันวาคม

 

สยามพิวรรธน์, ไอคอนสยาม

สยามพิวรรธน์, ไอคอนสยาม

 

การลงทุนขยายพื้นที่ครั้งประวัติการณ์นี้สะท้อนว่า ไอคอนสยามได้กลายเป็น Global Attraction ที่ดึงดูดการลงทุน และเป็นต้นแบบ (prototype) ที่ผู้ประกอบการระดับโลกต้องศึกษา การันตีด้วยรางวัลที่เป็นความภาคภูมิใจล่าสุด คือการได้รับคัดเลือกเป็น Finalist เพียงหนึ่งเดียวจากไทย ในรางวัล Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years ของ MAPIC Award 2025 ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ‘คานส์ของวงการ Retail’

 

เส้นทางของสยามพิวรรธน์คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ‘วิสัยทัศน์ ความกล้า และความศรัทธา’ สามารถเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นจริงได้ ทุกโครงการไม่เพียงสร้างความสำเร็จให้แก่สยามพิวรรธน์ แต่ยังสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้แก่สังคม ชุมชน และประเทศ นี่คือภารกิจของ ‘ผู้พลิกเกม’ ที่ต้องการ ‘ชนะ’ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และทำให้ประเทศไทยเป็นที่จับตามองบนเวทีโลก Win the World for Thailand

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising