ตัวเลขตลาดชาพร้อมดื่มปี 2562 ที่เติบโต 3.1% ด้วยมูลค่า 12,320 ล้านบาท ส่วนในแง่ของปริมาณโต 2% น่าจะทำให้สองผู้เล่นรายใหญ่ต่างยิ้มกว้างกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะกับ ‘อิชิตัน’
ผลประกอบการในปี 2562 พบว่า รายได้จากการขายอยู่ที่ 5,334.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 2.5% เนื่องจากตลาดในประเทศเติบโตดี 9.8% ส่วนตลาดส่งออกลดลง 12.7% เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว
กระนั้นก็ไม่กระทบกับอิชิตันเท่าไรนัก เพราะสามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 407.5 ล้านบาท เติบโต 829.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 43.8 ล้านบาท กำไรที่โตหวือหวานี้มาจากการจัดแคมเปญการตลาดที่แตกต่าง ใช้งบประมาณรัดกุม แต่มีประสิทธิภาพในการเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดี
ควบคู่การบริหารต้นทุนการขาย และต้นทุนการจัดจำหน่ายที่ลดลง มีการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ การออกรสชาติใหม่ สนับสนุนภาพรวมตลาดในประเทศให้เติบโตคึกคัก โดยเฉพาะชาเขียวกลุ่ม Mainstream ซึ่งเป็นสินค้าหลัก
ที่สำคัญ ‘ชาชิซึโอกะ’ ก็ไม่ทำให้อิชิตันผิดหวัง เป็นเบอร์ 1 ในตลาดชาพรีเมียมในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่ง 31.1% ในขณะที่ตลาดมีสัดส่วน 11.2% ของมูลค่าตลาดชาทั้งหมดเติบโต 21.8%
“แม้ภาพรวมตลาดส่งออกได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว และการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่อิชิตันปรับเกมธุรกิจ โฟกัสตลาดในประเทศที่มีการเติบโต ควบคู่การมองหาโอกาสในธุรกิจที่มีอัตรากำไรดี เสริมแกร่งผลงานปีนี้ให้เติบโตต่อเนื่อง”
สำหรับในปี 2563 อิชิตันประเมินว่า จะสามารถเก็บเกี่ยวกำไรจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งไปลงทุนหลายปีก่อนได้เสียที หลังจากเห็นสัญญาณบวกในไตรมาส 3/62 ที่เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไร จากความสำเร็จในผลิตภัณฑ์ชานมไทย กาแฟนมไทย ซึ่งกลายเป็นสินค้าที่ติดตลาดอินโดนีเซีย
สำหรับภาพรวมธุรกิจตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15% จากการขยายตลาด ขยายผลิตภัณฑ์ และขยายธุรกิจที่มีโอกาส ซึ่งเตรียมทำแคมเปญและเพิ่มรสชาติใหม่ๆ เข้าพอร์ตแต่ละกลุ่มสินค้า
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์