International Business Machines หรือ IBM เปิดเผยรายงานรายได้และผลกำไรของบริษัทในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2023 ซึ่งพบว่า ตัวเลขรายได้และผลกำไรในไตรมาสดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
รายงานระบุว่า หุ้นของ IBM ขยับพุ่งขึ้นเกือบ 13% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี ในช่วงเปิดตลาดวันพฤหัสบดี (25 มกราคม) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยได้อานิสงส์ความต้องการด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ คำสั่งซื้อในส่วนของธุรกิจ Generative AI ของ IBM ซึ่งรวมถึงการจองและการขายจากบริการต่างๆ เพิ่มขึ้น 2 เท่าในไตรมาส 4/2023 และคาดว่าจะช่วยให้รายได้เติบโตขึ้นประมาณ 4-6% ในปี 2024 นี้
สำหรับรายได้และกำไรโดยรวมของบริษัท IBM ระบุว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 3.87 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.78 ดอลลาร์ต่อหุ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้ที่ระดับ 1.738 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.730 หมื่นล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า ราคาหุ้นของ IBM เมื่อวานนี้ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 196.89 ดอลลาร์ต่อหุ้น ถือได้ว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2013 ทำให้มูลค่าตลาดของ IBM เพิ่มขึ้นมาเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยไม่นานหลังเปิดเผยตัวเลขรายได้และกำไรของบริษัท มีนักวิเคราะห์ชั้นนำอย่าง Bank of America, JP Morgan, Jefferies และ Evercore ต่างพากันปรับขึ้นคาดการณ์การเติบโตของ IBM
นอกจากนี้ ตามข้อมูลของ LSEG พบว่า ในปัจจุบันหุ้นของ IBM ซื้อ-ขายที่ P/E ประมาณ 17 เท่าของรายได้ที่คาดไว้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต 2 ปีที่ประมาณ 14 เท่า ในขณะที่บริษัทอื่นๆ มีการซื้อ-ขายที่ประมาณ 20 เท่า โดยการเติบโตของ IBM ที่โดดเด่นยังคงได้แรงหนุนจาก AI เป็นหลัก
อ้างอิง:
