14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand ภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้เรื่องใหม่จากค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ The Pipal Tree ภายใต้การกำกับของ เป้-นฤบดี เวชกรรม ที่เคยสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้ชมมาแล้วใน Low Season สุขสันต์วันโสด (2563) พร้อมได้สองนักแสดงมากฝีมืออย่าง นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต และ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ มาร่วมรับบทนำ
ภาพยนตร์จะพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2546 เมื่อ กิ๊บ (ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) อดีตนักเรียนดีเด่นระดับประเทศ ที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อมาพักใจ แต่ดันต้องมาเจอกับอดีตเพื่อนเคยซี้อย่าง ต้อ (นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต) ที่เธอพยายามหนีหน้ามาโดยตลอด
ขณะเดียวกัน กัน (ภูผา-อินทนนท์ แสงศิริไพศาล) น้องชายตัวแสบวัย 14 ปีของกิ๊บ ก็กำลังแอบชอบ ผิง (แฟร์รี่-กิรณา พิพิธยากร) นักเรียนหญิงสุดเท่คนใหม่ของโรงเรียน เขาจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนในแก๊งหัวหมา นำโดย ม่อน (โยชิ-สุริยาวิชญ์ ถนอมชัยสนิท), วัด (วีเจ-นพรุจ ตันธนวิกรัย), ต่าย (เล็ก-ธีรเวช สุภาวงษ์) และ ซาร่า (โมเน่ต์-ภาริตา ริเริ่มกุล) แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาจะยิ่งทำให้ทุกอย่างวุ่นวายกว่าเดิม แถมอยู่ๆ กิ๊บและต้อก็จับพลัดจับผลูต้องมาช่วยเหลือแก๊งหัวหมาโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย เรื่องราวแสนวุ่นวายของแก๊งหัวหมาและสองเพื่อนเคยสนิทจึงเริ่มต้นขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง:
อย่างหนึ่งที่ส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบมากๆ ใน สุขสันต์วันโสด ผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับ เป้ นฤบดี คืองานภาพที่ถ่ายทอดทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาและโฮมสเตย์ในจังหวัดเชียงใหม่จนทำให้ใครหลายคนอยากเดินทางไปตามรอย รวมถึงบรรยากาศของเรื่องที่ชวนให้เรารู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้มาพักใจไปพร้อมกับตัวละคร
มาถึง 14 อีกครั้ง เรายังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความสบายๆ อบอุ่นหัวใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนเช่นเดิม โดยครั้งนี้ผู้กำกับและทีมสร้างได้เดินทางไปถ่ายทำกันที่อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี บ้านเกิดของผู้กำกับ ซึ่งมาพร้อมกับสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มากมายไม่แพ้กัน เช่น สะพานปลาด่านขลุง, ถนนยางนา 300 ปี, ชุมชนเมืองขลุง ฯลฯ ซึ่งเราเชื่อว่าหลังจากที่ 14 อีกครั้ง ออกฉาย จะต้องมีผู้ชมหลายคนเดินทางไปตามรอยที่อำเภอขลุงกันอย่างแน่นอน
มนตร์เสน่ห์อีกอย่างของภาพยนตร์เรื่องนี้คือรายละเอียดน้อยใหญ่ที่ใครเติบโตมาในช่วงยุค 2000 จะต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการยืมหนังสือการ์ตูนของเพื่อนมาอ่านสลับกันไปมา การฟังเพลงผ่านโปรแกรม Winamp นั่งเล่นเกมงูบนโทรศัพท์โนเกีย การเขียนจดหมายหานักแสดงหรือศิลปินที่ชื่นชอบ หรือการจับกลุ่มกันนั่งเล่นผีถ้วยแก้ว ฯลฯ
14 อีกครั้ง จึงเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยที่ชวนให้เรานึกถึงวันวานที่เคยมีประสบการณ์ร่วมคล้ายกับตัวละครภายในเรื่อง ทั้งเคยแอบยืนอ่านหนังสือการ์ตูนฟรี ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปเที่ยวเล่น หรือไปบ้านเพื่อนเพื่อต่อคิวเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ส่วนตัวผู้เขียนเองก็มีจุดที่เชื่อมโยงกับภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่หลายจุด และชวนให้เราติดตามเรื่องราวไปได้ตลอดทั้งเรื่อง
นอกเหนือจากบรรยากาศภายในเรื่องที่นำเสนอได้ค่อนข้างดีแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเด็กๆ แก๊งหัวหมาที่มักคอยก่อวีรกรรมจนสร้างความวุ่นวายอยู่บ่อยครั้ง ทั้งการร่วมมือกันแอบอ่านการ์ตูนฟรี จับกลุ่มกันเล่นผีถ้วยแก้ว หรือวางแผนแอบครอบครัวไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ ซึ่งวีรกรรมต่างๆ ของแก๊งหัวหมานี้เองที่คอยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เราได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า 14 อีกครั้ง จะมีจุดที่เราชื่นชอบมากๆ ในแง่ของบรรยากาศภายในเรื่องที่ชวนให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และเพลิดเพลินไปกับการติดตามว่าแก๊งหัวหมากลุ่มนี้จะก่อความวุ่นวายอะไรอีกบ้าง
แต่ภาพยนตร์ก็มีข้อสังเกตสำคัญที่ไม่สามารถชักชวนให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครมากนัก นั่นคือการที่ผู้กำกับและทีมสร้างพยายามจะใส่ประเด็นที่พวกเขาอยากนำเสนอเยอะเกินไปสักหน่อย เริ่มตั้งแต่ปมปัญหาของกิ๊บที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับมาบ้านเกิด เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างกิ๊บและต้อ เรื่องราวของกันที่แอบชอบผิง ไปจนถึงความขัดแย้งของแก๊งหัวหมาและเด็กใหม่อย่างผิงที่ดูจะไม่เข้ารูปเข้ารอยเท่าไรนัก
ซึ่งหากมองในแง่หนึ่ง การผูกโยงปมปัญหาให้กับตัวละครต่างๆ เหล่านี้จะมีข้อดีที่ช่วยเสริมให้ทุกตัวละครต่างมีแง่มุมที่น่าสนใจ แต่ขณะเดียวกัน ด้วยความที่ผู้กำกับและทีมสร้างจำเป็นต้องเล่าทุกประเด็นไปพร้อมๆ กัน มันจึงทำให้ภาพยนตร์ไม่สามารถ ‘ลงลึก’ ในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง รวมถึงไม่สามารถพาผู้ชมไปสำรวจความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
ส่วนตัวผู้เขียนจึงแอบเสียดายในจุดนี้พอสมควร เพราะหากผู้กำกับสามารถบาลานซ์เรื่องราวของแต่ละตัวละครให้ออกมากลมกล่อมมากกว่านี้ หรืออาจจะตัดทอนประเด็นรองๆ ลงและเน้นไปที่ประเด็นหลักๆ ที่ภาพยนตร์ต้องการนำเสนอ เราคิดว่าเราคงจะหลงรักและเสียน้ำตาให้กับกิ๊บ ต้อ และแก๊งหัวหมามากกว่านี้แน่ๆ
รวมๆ แล้วแม้ว่าส่วนตัวผู้เขียนจะแอบเสียดายในแง่ของความสัมพันธ์และประเด็นของตัวละครที่ภาพยนตร์ไม่สามารถชักชวนให้เราอินไปกับพวกเขามากนัก แต่สิ่งที่เราได้รับจาก 14 อีกครั้ง มาอย่างเต็มเปี่ยม คือรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากแก๊งหัวหมา และบรรยากาศภายในเรื่องที่ชวนให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้มาพักกาย แล้วปล่อยใจไปกับการติดตามดูว่าแก๊งหัวหมากลุ่มนี้จะก่อวีรกรรมอะไรกันอีกบ้าง
14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่: