Hunt ล่าคนปลอมคน ภาพยนตร์เรื่องใหม่จากเกาหลีใต้ที่เพิ่งเข้าฉายในไทยเมื่อ 1 กันยายนนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ได้ไปฉายโชว์ในรอบ Midnight Screen ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ได้รับเสียงปรบมือ (Standing Ovation) ยาวนานกว่า 7 นาที และเมื่อเปิดตัวในเกาหลีเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ก็ทำรายได้เป็นอันดับ 1 สามสัปดาห์ซ้อน จนไต่ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของภาพยนตร์เกาหลีที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปีอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่ากระแสความแรงนี้มาจากนักแสดงระดับแม่เหล็กอย่าง อีจองแจ กับ จองอูซอง สองเพื่อนซี้ในชีวิตจริงที่โคจรมาร่วมจอกันอีกครั้งในรอบ 23 ปีนับจากเรื่อง City of the Rising Sun (1998) สมทบด้วย จอนฮเยจิน, ฮอซองแท, โกยุนจอง, คิมจงซู, จองมันชิก ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีนักแสดงหน้าคุ้นเคยอีกหลายคนมาเป็น Cameo ในเรื่องนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง:
ที่สำคัญคือเป็นงานกำกับครั้งแรกของอีจองแจ และเขียนบทร่วมกับ โจซึงฮี หลังจากโลดแล่นอยู่ในวงการมาราว 30 ปีด้วยงานแสดง เขาพูดถึงความตั้งใจในการทำผลงานเรื่องนี้ว่า “สำหรับผม Hunt เป็นหนังแอ็กชันสายลับ มันเล่าเรื่องของคนที่ต้องทำอะไรขัดกับความเชื่อและหลักการของตัวเอง ซึ่งความเดือด ความสมจริง และรายละเอียดต่างๆ คือสามสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมทำสตอรีบอร์ดกับแผนกเทคนิคพิเศษ ทีมสตันท์ และทีมซีจีอย่างละเอียด รวมถึงซีนแอ็กชันไล่ล่า ผมต้องการให้ทั้งหมดออกมาดูสดใหม่ ซึ่งทีมงานทุกคนไม่ทำให้ผมผิดหวัง”
ฉากหลังของ Hunt อยู่ในยุค 80 ภายหลังที่ผู้นำเผด็จการ พัคจองฮี ถูกลอบสังหารโดยหัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลางแห่งชาติ (KCIA) เมื่อปี 1979 จากนั้นนายพลชอนดูฮวานจึงรัฐประหารเข้ามาสืบทอดอำนาจต่อ นำไปสู่การชุมนุมประท้วงครั้งสำคัญที่กวางจูในเดือนพฤษภาคม ปี 1980 ซึ่งเขาได้สั่งสลายการชุมนุมจนมีประชาชนเสียชีวิตเกิน 1,000 คน
หนังหยิบประวัติศาสตร์จริงมาเล่าเรื่องราวของตัวละคร พัคพยองโฮ (อีจองแจ) หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับระหว่างประเทศ กับ คิมจองโด (จองอูซอง) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ชายสองคนที่ได้รับมอบหมายให้ตามล่า ‘ดงลิม’ (독립 – เอกราช/อิสรภาพ) โค้ดเนมของสายลับเกาหลีเหนือผู้ปล่อยข้อมูลลับสุดยอดที่กระทบต่อความปลอดภัยของผู้นำ ทั้งสองฝ่ายจึงออกตามล่าหนอนบ่อนไส้ในองค์กรจนเริ่มหันมาห้ำหั่นกันเอง
ถือว่าฉากแอ็กชันทำได้ดุเดือดสมกับที่หนังได้รับคำชมอย่างล้นหลาม หนังไม่ปล่อยให้มีจังหวะเงียบนานก็ซัดทั้งฉากปะทะคารมและฉากต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องบอกว่าโลเคชันยุค 80 ของโซล วอชิงตัน โตเกียว รวมถึงประเทศไทย ที่เห็นกันนั้นถูกเซ็ตขึ้นมาในเกาหลีทั้งหมด
สำหรับอีกหนึ่งอีเวนต์สำคัญที่ Hunt ใช้ประเทศไทยเป็นฉากหลังนั้นอิงมาจากเหตุการณ์จริงที่มีสายลับเกาหลีเหนือพยายามลอบสังหารชอนดูฮวานในปี 1983 ณ เมืองย่างกุ้ง เมียนมา แต่หนังเปลี่ยนมาเป็นประเทศไทยกับบรรยากาศล้อมรอบด้วยภูเขาแบบ Exotic หน่อยๆ ซึ่งในช่วงเวลานั้นตรงกับยุคของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์
ขณะเดียวกันก็เป็นจุดอ่อนคือ แม้เราจะเชื่อในฝีมือของนักแสดงนำอย่างไร้ข้อกังขา (และเข้าใจอารมณ์แค้นต่อเผด็จการได้ไม่ยากแน่ๆ) แต่เมื่อเข้าสู่องก์สามซึ่งควรจะคลี่คลายประเด็นสายลับ กลับมีความรู้สึกเสียดายที่หนังเดินเรื่องเร็วจนไม่เห็นมิติของตัวละครเท่าที่ควร โดยเฉพาะกับคนที่ไม่สันทัดกับประวัติศาสตร์เกาหลีเหนือ-ใต้ กว่าจะปะติดปะต่อตามได้ก็มีฉากแอ็กชันตื่นเต้นมาดึงความสนใจไปก่อนแล้ว
โดยภาพรวมนอกจากหนังจะถ่ายทอดให้เห็นว่าบรรดาผู้ใหญ่ในหน่วยงานรัฐเป็นหมากในเกมการเมืองอย่างไร และทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้อุดมการณ์ที่ตัวเองยึดถือบรรลุผล ก็มีอีกตัวละครโดดเด่นอย่าง ยูจอง แสดงโดย โกยุนจอง นักแสดงหน้าใหม่จาก Sweet Home, Law School และ Alchemy of Souls
ในฉากแรกๆ ยูจองปรากฏตัวเป็นนักศึกษาธรรมดาที่บังเอิญได้รับลูกหลงจากการประท้วง เธอเห็นเพื่อนๆ วัยเดียวกันถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำอย่างไร้ความปรานีเพราะออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และด้วยภูมิหลังคลุมเครือของเธอกับพัคพยองโฮ จึงทำให้เธอเข้ามาพัวพันกับการตามล่าสายลับโดยปริยาย
อีจองแจบรรยายตัวละครของยูจองว่า ‘เธอขยะแขยงในการกระทำของคนรุ่นก่อน’ เมื่อผ่านพ้นจุดหักมุมมาแล้ว ตัวละครนี้จึงมีบทบาทสำคัญที่เติมเต็มเรื่องราวได้ดี ในฐานะตัวแทนของคนวัยหนุ่มสาวผู้ชิงชังทั้งรัฐบาลเผด็จการและข้ารับใช้ของคนเหล่านั้นเต็มทน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม
“ผมต้องการให้หนังเรื่องนี้เป็นกระบอกเสียงในยุคที่องค์กรต่างๆ หรือแม้กระทั่งรัฐบาลยัดเยียดแนวคิดใส่หัวประชาชน กดหัวประชาชนผ่านนโยบายที่ฉาบหน้า แล้วเราจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปอย่างนั้นหรือ” อีจองแจกล่าว
ภาพ: Megabox Plus M
- ตัวละครของอีจองแจในเรื่อง Deliver Us from Evil ปี 2020 เคยมาตามไล่ล่าศัตรูที่กรุงเทพฯ โดยมีภาพเป็นแหล่งค้ายา ค้ามนุษย์ อาชญากรรมผิดกฎหมาย
- Hunt ล่าคนปลอมคน มีเพลงคอลแลบสำหรับผู้ชมชาวไทย ร้องโดยแรปเปอร์ K.AGLET x Liberate P จาก Rap Against Dictatorship เจ้าของเพลง ประเทศกูมี, 250 สอพลอ, บ้านเกิดเมืองนอน ฯลฯ https://www.youtube.com/watch?v=VDaKhvWrNKk
- หากอยากเห็นอีจองแจกับบทบาทเชือดเฉือนทางการเมืองในยุคปัจจุบันแบบเข้มๆ ซีรีส์ Chief of Staff ที่เขาเล่นประกบกับ ชินมินอา เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง (รับชมได้บน Netflix)