×

ฮุนมาเนต ส่งจดหมายถึงประธานอาเซียน-ผู้นำโลก วอนกดดันไทยยุติขับไล่ชาวบ้านกัมพูชา เรียกร้องเคารพข้อตกลงหยุดยิง

18.09.2025
  • LOADING...
ฮุนมาเนต ส่งจดหมายถึงประธานอาเซียนและผู้นำโลก วอนกดดันไทยยุติขับไล่ชาวกัมพูชา

ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งจดหมายถึง อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียนคนปัจจุบัน พร้อมด้วยผู้นำโลกอีกหลายคน อาทิ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน, โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ตลอดจน อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ และอันนาเลนา แบร์บ็อคประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 80 

 

โดยระบุเป้าหมายเพื่อดึงความสนใจของผู้นำโลก ต่อสถานการณ์ความขัดแย้งล่าสุดในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งผู้นำกัมพูชาย้ำว่าเป็นภัยต่อสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างสองประเทศและภูมิภาคโดยรอบ พร้อมทั้งขอให้ผู้นำโลกสนับสนุนข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ได้แก่

 

1.การปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดต่อข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงที่บรรลุในการประชุม GBC และ RBC ล่าสุด และการยุติทันทีต่อการกระทำฝ่ายเดียวทั้งหมดที่เสี่ยงทำให้ความตึงเครียดทวีความรุนแรงและขยายความขัดแย้ง

 

2.การหลีกเลี่ยงการใช้กำลังกับพลเรือนและทรัพย์สินของพวกเขา

 

3.การยุติการขับไล่โดยบังคับที่วางแผนไว้ทั้งหมด และการอำนวยความสะดวกให้พลเรือนกัมพูชาที่ถูกขับไล่แล้วสามารถกลับไปยังบ้านและที่ดินของตนอย่างปลอดภัย

 

4.การใช้กรอบของ JBC และ GBC เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนผ่านการเจรจาและการพูดคุยโดยสันติ แทนที่จะใช้วิธีทางทหาร

 

5.การปล่อยตัวโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขต่อทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบัน

 

ทั้งนี้ เนื้อหาในจดหมายนั้น ฮุน มาเนต ได้แจ้งผู้นำโลกเกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การขยายพื้นที่ความขัดแย้งนอกเหนือไปจากพื้นที่จังหวัดพระวิหารและจังหวัดอุดรมีชัย โดยเรียกร้องให้เคารพข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงที่ฝ่ายไทยและกัมพูชา บรรลุในที่ประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมาธิการชายแดนภูมิภาค (RBC) ล่าสุด

 

เขาลำดับเหตุการณ์โดยอ้างว่าตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม กองทัพไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งโดยการกั้นลวดหนามและสิ่งกีดขวาง ยื่นคำขาด และขับไล่พลเรือนกัมพูชาออกจากพื้นที่หมู่บ้านโจกเจย (Chouk Chey) และ เปรยจัน (Prey Chan) ในจังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่ตั้งถิ่นฐานมายาวนาน โดยมีครอบครัว 25 ครอบครัวที่ถูกกันไม่ให้เข้าถึงบ้านและที่ดินของตนเอง ขณะที่ระบุว่าโฆษกกองทัพไทยได้ข่มขู่ว่าจะมีการขับไล่เพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ ซึ่งอาจกระทบต่อชาวกัมพูชาอีกหลายร้อยครัวเรือน

 

นอกจากนี้ เนื้อหายังระบุข้อมูลที่อ้างว่ามาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่ากองทัพไทยมีเจตนาจะใช้กำลังยึดพื้นที่ในอีก 17 แห่งในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่จังหวัดโพธิสัตว์ไปจนถึงเกาะกง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา

 

“การกระทำฝ่ายเดียวข้างต้นที่ดำเนินการโดยกองทัพไทยนั้นอิงตามแผนที่ฝ่ายเดียวของตนเอง ซึ่งขัดต่อแผนที่ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน ซึ่งเป็นผลจากการทำงานของคณะกรรมาธิการกำหนดเส้นเขตแดนระหว่างอินโดจีนและสยามที่จัดตั้งขึ้นโดยอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 ระหว่างฝรั่งเศสและสยาม ซึ่งได้รับการรับรองโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และได้รับการยืนยันโดยกัมพูชาและไทยในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบกที่ลงนามเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2000 (MOU43)” ฮุน มาเนต อ้าง

 

ขณะที่เขากล่าวหาว่า “การกระทำของไทยถือเป็นความพยายามที่จะปักปันเขตแดนฝ่ายเดียวโดยใช้กำลัง ซึ่งเป็นการละเมิดโดยตรงต่อ MOU43 อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการร่วมกัมพูชา-ไทยว่าด้วยการปักปันเขตแดนทางบก (JBC) และพันธกรณีที่ได้บันทึกไว้ในการประชุม GBC และ RBC ล่าสุด”

 

“ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะไม่ดำเนินการที่ยั่วยุซึ่งอาจทำให้ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น หรือขยายขอบเขตและขนาดของข้อพิพาท”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising