ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ภาพจดหมายลงเพจเฟซบุ๊ก Hun Manet โดยระบุว่าตนเองได้ส่งจดหมายถึง เอกอัครราชทูตอาซิม อิฟติคาร์ อาหมัด ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) โดยเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมคณะมนตรีความมั่นคงอย่างเร่งด่วน เพื่อหยุดยั้งเหตุที่ไทยรุกรานกัมพูชา โดยใจความในจดหมายระบุว่า
“ข้าพเจ้าขอเรียนให้ท่าน ตลอดจนสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติท่านอื่นๆ ทราบอย่างเร่งด่วนว่า กัมพูชาได้เผชิญกับการรุกรานด้วยอาวุธจากกองทัพไทยที่บริเวณชายแดนระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทย ดังรายละเอียดต่อไปนี้:
ตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 กองกำลังติดอาวุธของไทยได้โจมตีกัมพูชาโดยไตร่ตรองล่วงหน้าและวางแผนมาแล้วบริเวณแนวชายแดน รวมถึงปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย และพื้นที่มอมเบย (Mom Bei) ในจังหวัดพระวิหารและจังหวัดอุดรมีชัย
กัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดและแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการรุกรานทางทหารอย่างไม่มีการยั่วยุและมีการวางแผนล่วงหน้าจากกองกำลังของราชอาณาจักรไทย การโจมตีดังกล่าวเป็นการละเมิดอย่างชัดเจนต่อหลักการไม่ใช้กำลังและการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ ซึ่งล้วนเป็นหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงหลักการสำคัญที่บัญญัติไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติและกฎบัตรอาเซียน ที่ห้ามการข่มขู่หรือใช้กำลังต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของรัฐใดๆ ตลอดจนเป็นการเพิกเฉยโดยสิ้นเชิงต่อหลักการการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ซึ่งกัมพูชาได้พยายามรักษาไว้มาโดยตลอด
เมื่อเผชิญกับการรุกรานอย่างโจ่งแจ้งนี้ กองทัพกัมพูชาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องป้องกันตนเอง เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ กัมพูชาเรียกร้องให้ประเทศไทยให้ยุติความเป็นปฏิปักษ์ทั้งหมดในทันที รวมถึงถอนกำลังกลับไปยังฝั่งของตนที่ชายแดน และหลีกเลี่ยงการกระทำยั่วยุใดๆ เพิ่มเติมที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง”
พร้อมกันนี้ยังระบุด้วยว่า “ความขัดแย้งตามแนวชายแดนในปัจจุบันระหว่างทั้งสองประเทศมีต้นเหตุมาจากไทยยังคงยืนยันอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือพื้นที่ชายแดน โดยใช้แผนที่ที่ไทยจัดทำฝ่ายเดียวซึ่งไม่มีหลักฐานทางกฎหมายรองรับ และขัดต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงกันไว้ภายใต้ MOU-2000
ในฐานะข้ออ้างสำหรับการรุกรานทางทหารครั้งนี้ ไทยยังได้กล่าวหากัมพูชาโดยปราศจากหลักฐานและมูลความจริงเกี่ยวกับเหตุทุ่นระเบิด หลังจากเจ้าหน้าที่ไทยเบี่ยงเบนจากเส้นทางลาดตระเวนที่ตกลงกันไว้ และกลับสร้างเส้นทางใหม่ที่ล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนของกัมพูชา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้รับการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการว่าเป็นเขตที่มีทุ่นระเบิด”
ในช่วงท้ายของจดหมาย ฮุน มาเนต ระบุว่า “เมื่อพิจารณาการรุกรานอย่างร้ายแรงครั้งล่าสุดของไทย ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคอย่างรุนแรง ข้าพเจ้าขอความกรุณาท่านเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงอย่างเร่งด่วน เพื่อยุติการรุกรานของไทย”
ภาพ: Hun Manet Facebook
อ้างอิง: Hun Manet Facebook